มาเลเซีย-อินโดนีเซีย ช่วยชาวโรฮิงญากว่า 2,000 คน

ทางการอินโดนีเซียและมาเลเซียพบผู้อพยพชาวโรฮิงญาและบังคลาเทศบนเรือที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่ง โดยที่เกาะลังกาวี มาเลเซียพบผู้อพยพกว่า 1,000 คน เช่นเดียวกับที่ชายฝั่งอาเจะห์ของอินโดนีเซีย ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าการลอยลำผู้อพยพเป็นผลจากการที่ทางการไทยเร่งจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาอย่างเข้มงวดจนทำให้นายหน้าหวาดกลัว และทิ้งผู้อพยพอยูู่กลางทะเลในเขตประเทศปลายทางอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย

 
ทางการอินโดนีเซียเปิดเผยว่าวานนี้ (10 พ.ค.2558) เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียได้ช่วยเหลือเรือผู้อพยพชาวโรฮิงญาจากประเทศเมียนมาและบังคลาเทศลำแรกและลำที่ 2 ในวันนี้ รวมจำนวนประมาณ 1,000 คน ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งอาเจะห์ของอินโดนีเซีย โดยผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยจากการเดินทางทางเรือได้ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.อาเจะห์ ส่วนที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้อพยพมากกว่า 1,000 คน ถูกทิ้งให้ลอยคออยู่กลางทะเล ซึ่งพบว่าเป็นชาวโรฮิงญาจากเมียนมาและบังคลาเทศเช่นกัน

ชาวโรฮิงญาคนหนึ่งบอกว่าพวกเขาถูกนายหน้าหลอกว่าเมื่อเดินทางมาถึงมาเลเซียแล้วให้ทุกคนกระโดดลงน้ำและว่ายขึ้นฝั่งเอง

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีค่ายผู้อพยพหรือแคมป์ลับอยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับศพชาวโรฮิงญาที่พบในประเทศไทย แต่รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของมาเลเซียปฏิเสธเรื่องดังกล่าว โดยยืนยันว่าไม่มีแคมป์ของขบวนการค้ามนุษย์อยู่ในประเทศมาเลเซีย

นายคริส เลวา จาก "อารข่าน โปรเจกต์" ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานเพื่อสิทธิของชาวโรฮิงญามองว่าสาเหตุที่ช่วงนี้มีเรือผู้อพยพชาวโรฮิงญาถูกลอยแพในหลายพื้นที่ มีสาเหตุมาจากการที่รัฐบาลไทยปราบปรามการค้ามนุษย์ หลังพบหลุมศพชาวโรฮิงญาจำนวนมากในภาคใต้ ผลจากการปราบปรามทำให้ขบวนการค้ามนุษย์ตัดสินใจลอยแพคนกลุ่มนี้ โดยปล่อยให้อยู่บนเรือที่แออัด ไม่มีทั้งอาหารและน้ำ