ไทยพีบีเอสลงพื้นที่เชียงใหม่ตรวจสอบข้าราชการทุจริตเพิ่มชื่อต่างด้าวในทะเบียนราษฎร์
คำยืนยันของนายเต็งยุ้น ผายนาง กำนันตำบลเปียงหลวง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หลังตัวเองเป็นบุคคลที่ถูกอ้างอิงว่าเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินในการรับรองบุคคลต่างสัญชาติให้เพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์ในประเทศไทยได้ จนนำไปสู่การตรวจสอบเอกสารของดีเอสไอ จำนวน 18,107 รายชื่อ ช่วงปี 2548-2549 ซึ่งเป็นการอายัดเอกสารย้อนหลัง
นายเต็งยุ้น ยังระบุว่ากลุ่มที่เป็นนายหน้าในอำเภอเวียงแหงมี 2 กลุ่ม คือกลุ่มชาวจีนอพยพและกลุ่มชาวเขา โดยเกือบ 19,000 รายชื่อ นายเต็งยุ้นมั่นใจว่าจะมีมากกว่า 1,000 คน ที่มีการทุจริต และยังระบุว่าการทุจริตทำให้เกิดปัญหาผู้ที่เข้าหลักเกณฑ์ไม่สามารถเพิ่มชื่อได้เพราะถูกกลุ่มนายหน้าใช้กลวิธีแทรกแซงการเพิ่มชื่อ
มีข้อมูลการสืบสวนที่ระบุว่าการเปิดให้เพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์ช่วงปี 2548-2549 ของบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยก่อนปี 2542 ทั่วประเทศ เปิดโอกาสให้มีการทุจริตเรียกรับเงินหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่การออกสำรวจ การลงชื่อรับรองหรือในช่วงปลดล็อคปี 2552 ที่มีคำสั่งให้ตรวจสอบบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนเพื่อตรวจสอบย้อนหลัง โดยช่วงนั้นผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนจะไม่สามารถดำเนินการเอกสารใดๆได้ทั้งสิ้น จนกว่าจะมีผู้มารับรองพร้อมเอกสารการอยู่ในประเทศไทยมายื่นอีกครั้งที่เทศบาลหรืออำเภอ เมื่อตรวจสอบว่าเข้าเกณฑ์ เจ้าพนักงานปกครองจะปลดล็อคให้
พื้นที่อำเภอเวียงแหง มีประชากรทั้งสิ้นกว่า 29,000 คน แต่ในขณะเดียวกันมีประชากรแฝงซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวอีกว่า 20,000 คนเช่นกัน จากตัวเลขที่ปรากฎมีการตั้งข้อสังเกตุลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ว่าการเข้ามาของบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้น และสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการเรียกรับเงินเพื่อรับรองบุคคล รวมถึงผู้ที่ได้สถานะจะใช้ความเป็นเครือญาติรับรองว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในประเทศไทยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งที่ ในข้อเท็จจริงตรงกันข้าม