ฝ่ายน้ำล้นกั้นแม่น้ำปิงพังทลาย ชาวบ้านหวั่นกระทบพื้นที่เกษตร

ชาวนาลุ่มแม่น้ำยมในจังหวัดพิจิตร เรียกร้องขอมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำเขื่อนภูมิภล เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้ง หลังปีนี้ภัยแล้งขยายวงกว้าง ขณะที่ฝายน้ำล้นกั้นแม่น้ำปิงในจังหวัดนครสวรรค์ ถูกน้ำกัดเซาะ พังทลาย ไม่สามารถผันน้ำเข้าคลองสาขาได้ และคาดว่าหากไม่ได้รับการแก้ไข จะกระทบต่อพื้นที่การเกษตร นับหมื่นไร่

ชาวตำบลเขาดิน อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ ต่างไปจับปลาบริเวณเหนือฝายกั้นแม่น้ำปิง หลังระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว จนเกิดสันดอนทรายหลายจุด ซึ่งเป็นผลกระทบจากฝายกั้นแม่น้ำปิง ของกรมชลประทาน ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อ 2 ปีก่อน ถูกน้ำกัดเซาะ พังทลายเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร เมื่อคืนนี้(9 ก.พ.) ส่งผลให้ไม่สามารถผันน้ำเข้าสู่คลองสาขาได้ ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอชลประทานจังหวัด ซ่อมแซม แต่หากดำเนินการล่าช้า จะส่งผลให้พื้นที่การเกษตร นับหมื่นไร่ ใน 4 ตำบลใกล้เคียง ไม่มีน้ำทำการเกษตร

ส่วนชาวนาลุ่มน้ำยมจังหวัดพิจิตร ตรวจสอบระดับน้ำในเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก หลังรัฐบาลประกาศห้ามชาวนา ทำนา เพราะมีน้ำไม่เพียงพอ ตัวแทนชาวนา เรียกร้องให้เขื่อนภูมิพลและรัฐบาล เปิดให้ตัวแทนภาคประชาชน มีส่วนร่วมบริหารจัดการน้ำ โดยอ้างว่า การบริหารจัดการน้ำที่ผ่านมา ไม่ได้สอบถามข้อมูล หรือความต้องการของชาวบ้าน ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม และมีการปล่อยน้ำทิ้ง โดยเปล่าประโยชน์ ส่งผลให้น้ำภาคการเกษตร ไม่เพียงพอ

ขณะเดียวกันในช่วงฤดูแล้ง หลายพื้นที่ได้เร่งทำแนวป้องกันไฟป่า เช่น ในพื้นที่ป่าสักใหญ่ ป่าสงวนแห่งชาติห้วยทาก และเขตป่าสงวนมลฑณทหารบกที่ 32 หน่วยรบพิเศษค่ายประตูผา จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นป่าไม้สักที่อุดมสมบูรณ์ เนื้อที่กว่า 150,000 ไร่ ที่มักเกิดไฟป่าทุกปี สาเหตุหนึ่ง เจ้าหน้าที่ระบุว่า มาจากการทิ้งก้นบุหรี่ลงข้างทาง และการก่อไฟริมถนนของนักท่องเที่ยว ที่กางเต็นท์พักแรมในพื้นที่