ภาพลักษณ์พระสันตะปาปาในสื่อบันเทิงสะท้อนมุมมองของสังคมที่มีต่อคริสตจักร
แม้คณะพระคาร์ดินัลจะมีมติเป็นเอกฉันท์ในการเลือกพระคาร์ดินัลเมอร์วิลล์เป็นองค์พระสันตะปาปาองค์ใหม่ แต่ภาระพระประมุขแห่งคริสตจักรซึ่งมีศาสนิกชนกว่า 1,000 ล้านคน ก็สร้างความกังวลให้เขาจนไม่กล้าปรากฏตัวต่อสาธารณชน แม้ได้รับการบำบัดโดยจิตแพทย์ในวาติกันก็ไม่อาจช่วยได้ เขาจึงแอบออกจากโบสถ์เพื่อไปใช้ชีวิตยังโลกภายนอกก่อนการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตการเป็นนักบวช คือเนื้อหาของ We Have a Pope ภาพยนตร์ของ แนนนี มอเร็ตติ ผู้กำกับชาวอิตาเลียนที่เสนอภาพชีวิตของสันตะปาปาและความวุ่นวายในการเลือกผู้นำคนใหม่ของวาติกัน กับมิติสังคมสมัยใหม่
ในอดีตภาพลักษณ์ของพระสันตะปาปาจะถูกบรรยายอย่างสูงส่ง ผ่านภาพวาดของจิตรกรชื่อก้องที่ว่าจ้างโดยวาติกัน ทั้ง ราฟาเอล, คาราวัจโจ้ หรือ วาลาสเควซ แต่ปัจจุบันศิลปินมีอิสระในการถ่ายทอดมากขึ้น นำไปสู่ภาพลักษณ์พระสันตะปาปาที่หลากหลาย รวมถึงประติมากรรมอื้อฉาว La Nona Ora ที่เป็นรูปปั้นพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ถูกอุกาบาตหล่นใส่ ซึ่งวาติกันประณามว่าหมิ่นศาสนา แต่ เมาริซิโอ แคทเตลัน ศิลปินเจ้าของผลงาน กล่าวว่าเขาเพียงต้องการสะท้อนว่าอดีตพระสันตะปาปาต้องกรำงานหนักแม้จะถูกรุมเร้าด้วยความชรา และโรคภัยก่อนสิ้นพระชนม์ในวัย 84 พรรษา
ในอดีตผู้ชมภาพยนตร์เคยชินกับภาพลักษณ์ของพระสันตะปาปาที่ทรงอำนาจและเปี่ยมด้วยคุณธรรม ทั้ง The Agony and the Ecstasy ที่เล่าถึงพระสันตะปาปาจูเลียสที่ 2 ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักอุปถัมภ์ศิลปะผู้ยิ่งใหญ่ จากการรับสั่งให้มีการบูรณะโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ หรือ The Scarlet and the Black ที่เล่าถึงวีรกรรมของพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12ผู้อนุญาตให้ใช้โบสถ์เป็นที่หลบภัยในช่วงที่กรุงโรมตกอยู่ในภาวะสงครามถูกกองทัพนาซียึดครอง แต่ภายหลังภาพลักษณ์ของพระสันตะปาปาและวาติกันได้ถูกดัดแปลงตามจิตนาการของผู้สร้าง ทั้งในเชิงขบขันอย่างเรื่อง The Pope Must Die ที่การเลือกพระสันตะปาปาถูกควบคุมโดยแก๊งค์มาเฟีย หรือใน Angels & Demons หนังจากนิยายอื้อฉาวของ แดน บราวน์ ที่บรรยายแผนการของคนร้ายซึ่งล่อลวงคณะพระคาร์ดินัลให้แต่งตั้งตัวแทนของตนเป็นผู้นำคนใหม่ของคริสตจักร ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าบิดเบือนข้อมูล หากแต่ไร้ปฏิกิริยาใดๆจากวาติกันเพราะไม่ต้องการให้ภาพยนตร์เป็นที่สนใจของสาธารณชนกว่าที่เป็นอยู่
ข่าวการเตรียมสละตำแหน่งของ พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ในวัย 85 พรรษาเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ กลายเป็นหัวข้อสนทนาของคนดังในโลกตะวันตกที่มีเสรีในการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นทางศาสนา ทั้งล้อเลียนหลักการเลือกผู้นำของวาติกัน และการตำหนิบทบาทของอดีตพระสันตะปาปาที่ปกครองด้วยนโยบายอนุรักษ์นิยม รวมถึงต่อต้านการทำแท้ง และไม่ให้การสนับสนุนการสอบสวนคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเยาวชนที่กระทำโดยบาทหลวงซึ่งเป็นที่รับรู้ในวงกว้าง และถูกนำมาตีแผ่ใน Mea Maxima Culpa สารคดีเข้ารอบสุด 15 เรื่องสุดท้ายเวทีออสการ์ ที่เปิดเผยชีวิตของบาทหลวงผู้ลอยนวลจากคดีขืนใจเด็กชายหูหนวกในโรงเรียนสอนศาสนาเป็นเวลาถึง 20 ปี