ปัญหาเคมีเกษตรตกค้างในพืชผัก ทำให้ผู้อำนวยการมูลนิธิ ชีววิถี หรือ ไบโอไทย เรียกร้องให้ ทุกฝ่าย ติดตามกระบวนการขึ้นทะเบียนเคมีเกษตรอย่างใกล้ชิด หลังตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่ามีบริษัทเอกชนบางส่วน พยายามกดดันและแทรกแซงกระบวนการพิจารณา ทั้งนี้ หากคณะกรรมการวัตถุอันตรายอนุมัติการขึ้นทะเบียน ก็พร้อมดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพราะกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ
ขณะที่เวทีสาธารณะรับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ของกรมวิชาการเกษตร เพื่อรวบรวมประกอบการพิจารณาการขึ้นทะเบียนเคมีเกษตร ในบัญชีเฝ้าระวัง 4 ชนิด จากทั้งหมด 11 ชนิด ได้แก่ ไดโคร์โตฟอส,อีพีเอ็น,เมธโทมิล และคาร์โบฟูราน ซึ่งเกษตรกร นิยมใช้ในนาข้าว พืชผักตระกูล แตง ถั่ว พริก และมะเขือ
โดยนักวิชาการจากหลายสำนักนำผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศที่บ่งชี้ว่า ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ขณะที่ตัวแทนภาคเอกชน นำเสนอรายงานประเมินผลกระทบเช่นกัน แต่ย้ำว่า ปัญหาสารพิษตกค้างในพืชผัก มาจากเกษตรกรใช้เคมีเกษตรผิดวัตถุประสงค์
ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตรจะเร่งสรุปรายงานเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณา ภายใน 1 เดือน โดยอาจเสนอปรับเปลี่ยนระดับการควบคุมเคมีเกษตร รวมทั้งระงับการนำเข้า ไดโคโตฟอส และอีพีเอ็น เนื่องจากไม่มีเอกชนนำเข้าแล้ว ขณะที่คาร์โบฟูราน และเมธโทมิล มีความต้องการใช้สูง คิดเป็นมูลค่าการตลาดเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท จากมูลค่าการตลาดเคมีเกษตรปี 2554 กว่า 22,000 ล้านบาท และแม้ปัจจุบันถูกระงับนำเข้าชั่วคราว แต่ยังมีจำหน่ายตามท้องตลาด