ไม่เพียงต้องพลัดพรากจากแอฟริกาบ้านเกิด หากอิสรภาพยังหายไปเมื่อถูกจับ เฆี่ยนตี และเข่นฆ่า เหมือนเป็นสิ่งของ คือชีวิตของเหล่าทาสที่ถูกโซ่ตรวนบนเรือสัญชาติสเปน “La Amistad” เหตุการณ์พลิกผันเมื่อ “Cinque” ทาสหัวใจแกร่งได้ลุกขึ้นมาทำลายโซ่ตรวน และฆ่าลูกเรือเกือบหมด เพื่อที่จะนำเพื่อนพ้องกลับบ้าน หากโชคชะตาไม่เป็นใจ เมื่อเรือไปขึ้นฝั่งที่อเมริกา พวกเขาจึงถูกจับตัวดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตาย
การห้ำหั่นทางความคิดครั้งสำคัญระหว่างอเมริกาฝ่ายเหนือ ที่ไม่เห็นด้วยกับระบบทาส และอเมริกาฝ่ายใต้ ที่ยังต้องพึ่งพาแรงงานทาส ทำให้ชะตาชีวิตของเหล่าทาสกลายเป็นเพียงการชิงชัยในเกมการเมือง ถ่ายทอดเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2382 โดยฝีมือผู้กำกับมากฝีมือ “สตีเวน สปีลเบิร์ก” “Amistad” ไม่เพียงสะท้อนการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของทาสแอฟริกันในอดีต หากภาพยนตร์ที่สร้างในปี 2540 เรื่องนี้ยังชวนขบคิดถึงสิทธิ และเสรีภาพที่มนุษย์แต่ละคนพึงมี ในสังคมปัจจุบัน
สุภาพ หริมเทพาธิป นักวิจารณ์ภาพยนตร์ กล่าวว่า สังคมอเมริกา แม้ทาสหมดไปแล้ว แต่ประเด็นสีผิวยังอยู่ หนังที่สะท้อนเรื่องนี้เหมือนเป็นการตรวจสอบตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ตามคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา ชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข คือสิทธิที่มนุษย์แต่ละคนมีเท่ากัน และไม่สามารถโอนให้กันได้ แล้วทำไมทาสถึงไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเช่นมนุษย์คนอื่น ร่วมติดตามเส้นทางการต่อสู้เพื่อสิทธิ เสรีภาพ และความยุติธรรมของกลุ่มทาสแอฟริกันได้ใน “Amistad: หัวใจทาสสะท้านโลก” ทางไทยเธียเตอร์ 22.00 น. ของคืนนี้ ทางไทยพีบีเอส
“Amistad” ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 4 รางวัลออสการ์ในปี 2540 แต่น่าเสียดายที่พลาดรางวัลไป เพราะในปีนั้นมีคู่แข่งอย่าง “Titanic” ที่คว้าไปได้ถึง 11 รางวัล