นักเศรษฐศาสตร์เตือนไทยควรใช้กฎหมายฟอกเงินและก่อการร้าย
จากกรณีที่ประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือ แฟตเอฟ ยกระดับประเทศไทยจากประเทศเสี่ยงอย่างร้ายแรงต่อการฟอกเงินหรือการสนับสนุนการเงินแก่การการก่อร้าย ให้เป็นประเทศที่มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาการฟอกเงินและการก่อการร้าย จากการออกกฎหมายฟอกเงิน ฉบับเพิ่มเติม และกฎหมายป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การการร้าย รวมทั้งกฎหมายลูก
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จะเสนอกฎหมายในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.ในเดือนมี.ค. เพื่อให้สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรม และหอการค้าไทย ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ที่บังคับใช้ เพื่อระมัดระวังการทำธุรกรรมกับคู่ค้า เพราะหากคู่ค้ามีประวัติเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและก่อการร้าย อาจต้องรับผิดด้วย
ด้านรองศาสตราจารย์สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐศาสตร์การเมือง กล่าวว่า แม้ไทยจะประกาศใช้กฎหมายใหม่ แต่จะถูกแฟตเอฟ ประเมินอย่างต่อเนื่อง และสามารถถูกจัดกลุ่มเข้าอยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงอย่างร้ายแรงได้ หากการบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ
ขณะที่การพิจารณาว่ากรณีใดเข้าข่ายฟอกเงิน แล้วให้อำนาจ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. เข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน อาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จึงต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ให้รอบคอบ