ผู้นำ
วันนี้ ( 25 ก.พ.56) ภายหลังการเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะและหารือทวิภาคีกับ น.ส.ปัก กึน-ฮเย ประธานาธิบดีคนใหม่แห่งสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกของการพบหารือภายหลังรับ ตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ โดยมีการหารือทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือต่าง ๆ ทั้งในระดับ ทวิภาคีและระหว่างประเทศ พร้อมทั้งตอกย้ำและสานต่อความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน สรุปดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับมาดามปัก กึน-ฮเย ประธานาธิบดีสตรีคนแรกของสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นมิตรประเทศเก่าแก่ของไทย และรู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสร่วมแสดงความยินดีกับผู้นำ สตรีสำคัญในพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง โดยไทยและสาธารณรัฐเกาหลีมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และร่วมเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกัน รัฐบาลไทยมีความยินดีร่วมพัฒนาและส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศและภูมิภาค ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้ง จะสานต่อความร่วมมือที่ได้มีการตกลงกันไว้ในสมัยประธานาธิบดี อี มยอง-บัก ให้มีความก้าวหน้าต่อไป ซึ่งน.ส.ปัก ึน-ฮเย ได้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีต่อการเดินทางเข้าร่วมพิธีสาบานตนในครั้งนี้ และยินดีที่ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดในทุกมิติ ทุกระดับ รวมทั้งพร้อมพัฒนาสานต่อความสัมพันธ์สู่ “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ตามที่ได้ มีการตกลงกันไว้
ในโอกาสนี้ ผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ต่างยินดีและชื่มชมต่อบทบาทสตรีในปัจจุบัน ที่ได้รับการยอมรับและก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและสังคม และในฐานะผู้นำสตรีด้วยกันจะได้ร่วมกันพัฒนาและส่งเสิมคุณภาพชีวิต สิทธิและบทบาทสตรี เพื่อเปิดและขยายโอกาสสำหรับสตรีให้มากยิ่งขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้หยิบยกนโยบายการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของไทย เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาศักยภาพของสตรีด้อยโอกาส และการเยียวยาสตรีที่ประสบปัญหาให้ดำรงชีวิตได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ทั้งนี้ น.ส.ปัก กึน-ฮเย แสดงความสนใจและหวังว่าจะได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีได้บ่อยขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตสตรี โดยรัฐบาล เกาหลีชุดปัจจุบันมีนโยบายการดูแลสตรีเช่นกัน เพราะในสังคมเกาหลีสตรีต้องแบกภาระการทำงานและดูแลครอบครัว รัฐบาลตั้งใจ ช่วยเหลือโดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร เพื่อเพิ่มความสุขของสตรีอันจะนำไปสู่การช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ
สำหรับมิติด้านความสัมพันธ์และความร่วมมือ ผู้นำทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องที่จะผลักดันการศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดทำความตกลง หุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ และขยายการค้าให้ถึง 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2016 ตามที่ได้เคยประกาศไว้ ส่วนการลงทุน ก็จะเร่งเพิ่มและขยายการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะการลงทุนจากเกาหลีในประเทศไทย ที่ยังมีโอกาสอีกมาก เช่น ยานยนต์ เหล็ก พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐาน ที่ไทยกำลังเร่งพัฒนาเพื่อเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และการเชื่อมโยงภูมิภาค ซึ่งเกาหลีจะสนับสนุนนักธุรกิจและนักลงทุนเดินทางมา ประเทศไทย เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนและขยายธุรกิจร่วมกัน
นอกจากนี้ ในโอกาสที่ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 ในเดือนพฤษภาคมนี้ และเกาหลีถือว่ามีประสบการณ์ และความเป็นเลิศในการบริหารจัดการน้ำ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวเชิญประธานาธิบดีเข้าร่วมประชุมฯและเยือนประเทศไทยอย่าง เป็นทางการในโอกาสนี้ด้วย ซึ่งประธานาธิบดีฯแสดงความสนใจและยินดีร่วมการประชุมและการเยือนหากเวลา เอื้ออำนวย
ภายหลังการหารือ ทวิภาคีกับ น.ส.ปัก กึน-ฮเย เวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางออกจากทำเนียบประธานาธิบดี ไปยัง ท่าอากาศยานทหาร Seoul Airbase เพื่อออกเดินทางไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งจะเดินทางไปถึงท่าอากาศนานาชาติฮ่องกง เขตบริหารพิเศษฮ่องกงใน เวลา 18.00 น
ภาพ-ข้อมูลจากเฟซบุ๊คYingluck Shinawatra