พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา โฆษกที่ปรึกษา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศปก.กปต.เปิดเผยภายหลังการประชุมแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า การแก้ปัญหาภาคใต้ยังเน้นแนวทางการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555-57 ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.และการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปลงนามสันติภาพที่ประเทศมาเลเซียเป็นไปตามนโยบาย ข้อ 8 ตามแผนของ สมช.ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะนำไปสู่การสร้างสันติสุข
ทั้งนี้ แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบล่าสุดในจังหวัดนราธิวาส แต่กระบวนการสันติภาพก็ต้องใช้เวลา นอกจากนี้ กลุ่มวาดะห์ได้เสนอที่ประชุมให้มีการปรับใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคง ม.21 แทนการประกาศใช้ พระราชกำหนดการบริหารราชในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 6 อำเภอ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอกาบัง ในจังหวัดยะลา, อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ,อำเภอสุคิริน อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะครบกำหนดการประกาศใช้ในวันที่ 19 มี.ค.นี้ ซึ่งร.ต.อ.เฉลิมจะรับข้อเสนอดังกล่าวไปเสนอต่อสมช.ต่อไป
คาดว่า ภายในเดือน มี.ค.นี้ ร.ต.อ.เฉลิม จะลงพื้นที่จังหวัดยะลา โดยมีนายวันมูฮัมหมัดนอร์ มะทา เป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายและผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยควบคู่กันไปด้วย
ด้านนายนัจมุดดีน อูมา หนึ่งในที่ปรึกษา ผอ.ศปก.กปต. ระบุว่า เชื่อว่า หลังจากนี้จะมีกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบกลุ่มอื่นๆ เช่น บีอาร์เอ็น คองเกรส ,พูโลใหม่ พูโลเก่า เข้ามาพูดคุยเพื่อสันติภาพ ทั้งนี้ ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงระบุว่า เหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นฝีมือของกลุ่ม บีอาร์เอ็น โคออดิเนต และกรณีที่กลุ่มพูโลได้ออกแถลงการณ์เห็นด้วยกับแนวทางที่รัฐบาลพูดคุยสันติภาพว่า ไม่ว่ากลุ่มใดหรือใครก็ตามที่ต้องการเข้ามาพูดคุยเพื่อสันติภาพเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องส่งเสริมให้ผู้ที่เห็นต่างเข้ามาพูดคุยกัน