ป้องกันเหตุหลังลงนามสันติภาพ
แม้ระเบิดในรถยนต์น้ำหนักเกือบ 90 กิโลกรัมหน้าร้านจิ๊บเฮงของนางสุวัสสา บรมสร จะทำงานไม่สมบูรณ์ ทำให้ร้านของเธอกลางเมืองนราธิวาสได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นดาย ทำให้ไม่มั่นใจมากนัก จึงเตรียมติดตั้งท่อซีเมนต์วางหน้าร้านเพื่อกันแรงระเบิด และว่าจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง แม้ว่ามาตรการนี้จะไม่มั่นใจว่าป้องกันเหตุรุนแรงได้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อผู้ก่อเหตุยังต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่ และสัญลักษณ์ทางเศรษฐกิจของคนต่างความเชื่อ รวมถึงตอบโต้การลงนามในเจตนารมณ์ร่วมกัน เพื่อพูดคุยสันติภาพระหว่างทางการไทยกับกลุ่มแนวร่วมบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต ซึ่งโดยส่วนตัวของเธอแล้วไม่เชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์
เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งบริเวณหน้าร้านจิบเฮง และเหตุระเบิดหน้าตลาดสดเทศบาลเมืองนราธิวาส ที่มีผู้บาดเจ็บ 6 คนเมื่อวานนี้ ทำให้บรรยากาศในงานถนนคนเดินในเขตเมืองนราธิวาส ซึ่งจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบกลับเงียบเหงาลงทันที เพราะหลายคนกลัวว่าจะเกิดเหตุรุนแรงซ้ำ
จุดตรวจทางเข้าเมืองนราธิวาสบนถนนสายหลัก เพื่อกันพื้นที่ในเขตเซฟตี้โซน โดยเน้นชุมชนเสี่ยง และย่านเศรษฐกิจ ถูกดำเนินการอย่างเข้มงวด ตามแผนดูแล 7 หัวเมืองหลัก คือ อำเภอเมือง อำเภอตากใบ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอเบตง และอำเภอเมืองยะลา โดยจะจัดกำลังสามฝ่ายดูแล ทั้งทหาร ตำรวจ และปกครอง เพื่อกันแนวเขต 3 ส่วน คือชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน พร้อมสร้างเครือข่ายชาวบ้าน ทำหน้าที่เป็นตาสับปะรด รวมถึงเร่งติดซ่อมแซมกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงนี้