นักวิชาการหนุนรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคม-ขนส่ง แต่คงอิสระธปท.
ภายหลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบยุทธศาสตร์การลงทุนโครงข่ายคมนาคมขนส่ง วงเงิน 2 ล้านล้านบาท จากแผนการลงทุนทั้งระบบ 4 ล้านล้านบาท นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนำยุทธศาสตร์ร่างออกเป็นกฎหมาย คาดว่าจะเสนอรัฐสภาได้ภายในเดือนเมษายนนี้ พร้อมย้ำจะดำเนินการภายใต้กรอบวินัยการคลัง โดยกู้เงินจากต่างประเทศให้น้อยที่สุด ซึ่งแม้ขณะนี้ประเทศจะมีสภาพคล่องทางการเงินสูง จนไม่ต้องกู้ต่างประเทศ หากประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ เพื่อจัดการสภาพคล่องอย่างเหมาะสม
นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ เป็นห่วงปัญหาความขัดแย้งระหว่างแบงก์ชาติ กับกระทรวงการคลัง อาจกระทบการบริหารการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างชาติระยะสั้น ทั้งที่สามารถใช้เครื่องมือทางการเงิน และการคลังควบคู่ไป โดยไม่ก้าวก่ายอำนาจซึ่งกันและกัน ส่วนการกำกับค่าเงินบาทระยะยาว รัฐบาลควรลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ของจีดีพี คิดเป็นงบประมาณปีละ 5.7 แสนล้านบาท หรือประมาณ 4 ล้านล้านบาท ในระยะ 7 ปี
สอดคล้องกับนายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย นักวิเคราะห์ธุรกิจสถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร สนับสนุนการลงทุนภาครัฐระยะยาว แต่ขอให้รัฐบาลดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายฉบับเดิม โดยเฉพาะกรอบการจัดทำงบประมาณหนี้สาธารณะ และคงความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ โดยไม่แก้ไขพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย กรณีการใช้ทุนสำรองเงินตรา