เอแบคโพล เผย Pre-Election Poll "พงศพัศ" ชนะเลือกตั้ง

การเมือง
3 มี.ค. 56
09:41
85
Logo Thai PBS
เอแบคโพล เผย Pre-Election Poll "พงศพัศ" ชนะเลือกตั้ง

สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง โพลล์ก่อนวันเลือกตั้ง (Pre-Election Poll) ผู้ว่า กทม. 2556 ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ชัดว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทย จะชนะการเลือกตั้ง

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง โพลก่อนวันเลือกตั้ง (Pre-Election Poll) ผู้ว่าฯ กทม. 2556 กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จำนวน 5,713 ตัวอย่าง คิดเป็นเพียงร้อยละ 0.0011 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึง 2 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้นเลือกเขต แขวง ชุมชน และลงสัมภาษณ์แบบเคาะประตูบ้านในระดับครัวเรือน ค่าความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 5

ผลสำรวจพบว่า ตัวอย่างประชาชนจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ 66.4  และเมื่อบวกลบค่าความคลาดเคลื่อนร้อยละ 5 จะพบว่าผู้ที่ตั้งใจจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งอยู่ระหว่างร้อยละ 61.4 ถึงร้อยละ 71.4 โดยผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 45.9 ระบุจะเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ และเมื่อบวกลบค่าความคลาดเคลื่อนร้อยละ 5 จะพบว่า ช่วงคะแนนของ พล.ต.อ.พงศพัศ  พงษ์เจริญ จะอยู่ระหว่างร้อยละ 40.9 ถึง ร้อยละ 50.9 และเมื่อประมาณการทางสถิติพบว่า ถ้าประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ 66.4 ตามผลสำรวจนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยจะได้เกินกว่า 1 ล้านคะแนน คืออยู่ในช่วง 1,176,781–1,464,503 คะแนน

ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 34.1 ระบุจะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และเมื่อบวกลบค่าความคลาดเคลื่อนร้อยละ 5 ดังนั้นจึงพบว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะได้ร้อยละ 29.1 ถึงร้อยละ 39.1 และเมื่อประมาณการทางสถิติพบว่า ถ้าประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ 66.4 ตามผลสำรวจนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนอยู่ในช่วง 837,270 - 1,124,992 คะแนน แต่ถ้าประชาชนไม่ไปใช้สิทธิ์ตามผลสำรวจที่ค้นพบในวันเลือกตั้งจริง ค่าคะแนนประมาณการที่ค้นพบครั้งนี้ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไป

ผอ.เอแบคโพล กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ผลสำรวจพบ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทยได้รับคะแนนสูงสุดคือ ความต้องการของประชาชนคนกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่ต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและเบื่อความขัดแย้ง ส่วนใหญ่ต้องการทำมาหากิน ต้องการได้แนวทางแก้ไขปัญหาลดความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างแท้จริง โดยมุ่งหวังว่ารัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร จะสามารถทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเดือดร้อนของประชาชนมีการเชื่อมประสานแบบบูรณาการ ทั้งในเรื่อง ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ปัญหาจราจร ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม ขยะเน่าเหม็น การพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะ การควบคุมอาคาร และการดูแลเอาใจใส่ความต้องการของประชาชนกลุ่ม “วัฒนธรรมย่อย” ให้ทั่วถึงด้วย

“แต่ถ้ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ล้มเหลวในการบริหารจัดการแก้ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพมหานคร ก็น่าจะถึงเวลานับถอยหลังในบทบาททางการเมืองของรัฐบาล แต่ถ้าหาก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ร่วมมือกับรัฐบาลเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครให้ดีขึ้นได้ตามที่เคยหาเสียงไว้ รัฐบาลและผู้ว่า กทม. คนใหม่ก็จะอยู่ได้อย่างมั่นคงแข็งแกร่ง แต่ขอเตือนให้ต้องระวัง สำนวนภาษาอังกฤษที่ว่า Too Much Power in Few Hands หมายความว่า ถ้าคนเพียงหยิบมือเดียวที่เป็น “คนไม่ดี” มีอำนาจแข็งแกร่งมากเกินไปย่อมเป็นอันตรายต่อสังคมไทยและระบอบประชาธิปไตยโดยรวม  จึงเสนอให้ประชาชนและสื่อมวลชนทำงานถ่วงดุลย์อำนาจรัฐบาลและติดตามเรื่องจริยธรรมทางการเมืองของรัฐบาลและผู้ว่า กทม. คนใหม่อย่างใกล้ชิด” ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล กล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง