ตร.เร่งจับกุม 3 กลุ่มต้องสงสัย ล่าช้างในแก่งกระจาน 
สภาวะที่แห้งแล้งส่งผลให้แหล่งน้ำธรรมชาติในป่าแห้ง ทำให้ฝูงช้างป่าในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสัตว์ป่าอื่นๆ เช่น ฝูงกระทิง ออกจากป่าไปหาแหล่งน้ำตามบ่อน้ำที่เจ้าหน้าที่ขุดกักเก็บน้ำกระจายไว้ให้กับสัตว์ป่า
เจ้าหน้าที่ ระบุว่า หากสิ้นเดือนเมษายน ยังไม่มีฝนตก จะส่งผลให้เกิดภาวะแล้งจัด ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสัตว์ป่าโดยตรง ขณะนี้ยังพอมีแหล่งน้ำที่เจ้าหน้าที่ขุดไว้รอบๆ อุทยานกว่า 10 บ่อ
ส่วนที่จังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่า อ่างฤาไน จัดเวรยามติดตามโขลงช้างป่า กว่า 20 ตัว ที่พลัดหลงจากฝูงใหญ่ ไปหากินพืชสวนผลไม้ของชาวบ้าน ใน ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา เพื่อไม่ให้คนทำร้ายช้าง หรือ ช้างทำร้ายคน
เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน กล่าวว่า ช้างป่าอ่างฤาไน มีประมาณ 200 - 300 ตัว แยกกันหากิน ส่วนหนึ่งไปหากินที่เขาชะเมาประมาณ 40 - 50 ตัว อีกส่วนหนึ่งหากินที่แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
ส่วนสาเหตุที่ช้างกว่า 20 ตัว กลับเข้าป่าไม่ได้ น่าจะเกิดจากเป็นช่วงหน้าแล้ง เพราะบนเขาไม่มีอาหารและแหล่งน้ำ ฝูงช้างจึงลงมาหากินในที่ดินของชาวบ้าน
ส่วนของการติดตามจับขบวนการล่าช้างในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พล.ต.ต. วิทยา ประยงค์พันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า หัวกระสุนปืนที่พบในกะโหลกช้างป่าเพศเมียที่ถูกยิงตาย น่าเป็นหัวกระสุนที่ยิงออกมาจากปืน 3 ชนิด คือ อาก้าร์ เอ็ม16 และปืนไรเฟิล เพราะเป็นหัวกระสุนจากปืนยิงเร็วและชนิดร้ายแรง
ขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามตรวจสอบกลุ่มผู้ต้องสงสัย 3 กลุ่ม คือ กลุ่มของนายสมพร จอกาย ที่เคยก่อเหตุและออกหมายจับไว้แล้ว กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ที่มีปัญหาเรื่องที่ทำกิน อาจใช้ปืนยิงช้างแล้วช้างหนีไปตายใกล้แหล่งน้ำ และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มคนข้าราชการ ที่มีอาวุธ และค่านิยมชอบล่าสัตว์ป่า ส่วนลูกช้าง คาดว่า ยังคงหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ระบุว่า กรณีพบช้างป่าบริเวณห้วยสัตว์ใหญ่ พื้นที่ หมู่ที่ 7 ตำบลป่าเด็ง จากลักษณะที่เฝ้าระวังเชื่อว่า ช้างไม่ลงไปกินน้ำในบ่อแน่นอนและพบว่าบริเวณข้อเท้าของช้างมีอาการบาดเจ็บ และช้างมีอาการซึม
ที่จังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระดมกำลังออกค้นหาช้างป่าเพศผู้ที่คาดว่าน่าจะข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และหลบซ่อนตัวภายในป่าในเขตอำเภอท่าอุเทน และอำเภอบ้านแพง
ล่าสุด พบร่องรอยของช้างป่าที่เข้ามากินและทำลายทรัพย์สินของชาว ต.โพนทอง และ ต.หนองแวง อ.บ้านแพง ชาวบ้านเชื่อว่า ช้างป่าที่ข้ามมาจากฝั่งลาว อาจเป็นช้างที่ถูกไล่ล่าเพื่อเอางาเพราะช้างบาดเจ็บที่งวง และคาดว่าน่าจะมีอยู่ 3 ตัวกระจายอยู่ในพื้นที่ป่าเขตรอยต่อระหว่าง อ.ท่าอุเทน และ อ.บ้านแพง จ.นครพนม