สำรวจ
การเชียร์ฟุตบอลในต่างประเทศค่อนข้างเข้มงวด ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และเสียงรบกวนต่อนักกีฬาในระหว่างแข่งขัน จึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่อุปกรณ์บางอย่างจะถูกห้ามนำเข้าสนามโดยเด็ดขาด
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ แตรวูวูเซล่า ฟีฟ่าสั่งห้ามนำเข้ามาในสนามหลังจากที่แฟนบอลเป่าเสียงดังจนทำให้นักกีฬา ไม่สามารถได้ยินเสียงนกหวีดของกรรมการ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกมการแข่งขัน จากนั้นสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือยูฟ่ายังออกประกาศห้ามในเวลาต่อมาด้วยว่าห้ามนำวูวูเซล่าเข้าสนามตลอดการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยูโรป้า ลีก รวมถึงฟุตบอลยูโร 2012 ที่ผ่านมาทั้งในการแข่งขันรอบคัดเลือกและในรอบสุดท้าย โดยยูฟ่าแจ้งให้ประเทศสมาชิกทั้ง 53 ประเทศในยุโรปให้ปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ขณะที่ในอังกฤษ "กลอง" เป็นอุปกรณ์ที่ถูกสั่งห้ามนำเข้าในสนามเช่นกัน ซึ่งเขามองในเรื่องความปลอดภัยเนื่องจากไม้กลองอาจนำมาเป็นอาวุธในการทำร้ายร่างกายกันได้ จะเห็นได้ว่าในอังกฤษการเชียร์ฟุตบอลจะใช้การตะโกนร้องเพลงมากกว่าการใช้อุปกรณ์หรือเครื่องดนตรีอื่น
ส่วนในอิตาลี สเปน หรือแม้แต่ในอเมริกาใต้ นิยมนำพลุไฟ และ พลุควัน เข้าสนามซึ่งแม้บางประเทศจะมีกฎห้ามนำเข้าแต่ก็ยังมีการลักลอบนำเข้าไปจุดอยู่บ่อยครั้งโชคดีก็รอด โชคร้ายก็อาจได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากพลุเหล่านี้อย่างเหตุการณ์ล่าสุดในฟุตบอลโคป้าเดลเรย์รอบรองชนะเลิศนัดที่ 2 แฟนบอลบาร์เซโลน่าขว้างพลุโดนพวกเดียวกันจนได้รับบาดเจ็บ
การการแข่งขันกีฬาระดับอาชีพ และในระดับนานาชาติ ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องควบคุมพฤติกรรมการเชียร์ของแฟนกีฬาด้วยเหตุผลหลายอย่างทั้งความปลอดภัย และเพื่อไม่ให้รบกวนผู้ชมคนอื่นๆ บางรายการห้ามไม่ให้แสดงป้ายต่างๆที่มีข้อความทางการเมือง หรือแม้แต่การโฆษณาแฝง เช่นในการแข่งขันโอลิมปิก 2012 ที่ผ่านมาแฟนกีฬาต่างถูกห้ามนำอุปกรณ์การเชียร์ที่ส่งเสียงดังเข้าสนามต่างๆทั้งแตรลม กลอง วูวูเซล่า หรือแม้แต่นกหวีด นอกจากนั้นยังห้ามแม้กระท่งกล้องที่มีเลนส์ขนาดยาว และขวดน้ำพลาสติก รวมถึงหมวกขนาดใหญ่ด้วย
ส่วนฟุตบอลลีกของไทยหลายสโมสรขึ้นชื่อในการเชียร์ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้กลองเป็นอุปกรณ์นำซึ่งสโมสรที่นิยมใช้กลองเป็นจุดเด่น โอสถสภาเอ็ม 150 สระบุรี / บีอีซีเทโรศาสน / บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด