<"">
"ณัฐวุฒิ" ชี้ต้องเดินหน้า พ.ร.บ.ปรองดอง แต่ควรฟังเสียงส่วนใหญ่ของสภา ทั้งนี้ ยอมรับหากส.ส.ขอชะลอ พร้อมฟังความเห็นทุกฝ่าย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำ นปช.กล่าวถึงกรณีพ.ร.บ.ปรองดดอง และพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตรเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีความเห็นว่า ควรชะลอออกไปก่อนนั้น ตนเองก็รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย แต่เชื่อว่าพ.ร.บ.ปรองดองทั้ง 4 ฉบับ แม้จะยังไม่มีการเดินหน้า แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะถอนออก ซึ่งถ้าหากที่ประชุมสภาฯ จะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณาก็ไม่สามารถทำในทางลับได้ เพราะส.ส.ทุกฝ่ายต้องรับรู้ และมีส่วนร่วม ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่จะเดินหน้าต่อ แต่ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ ถ้าส.ส.ส่วนใหญ่เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาตนก็ยอมรับ และรับฟัง
ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ได้ระบุถึง พ.ร.บ.เงินกู้เพื่อลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศในวงเงิน 2 ล้านล้านบาทว่า รัฐบาลมีการดำเนินการอย่างเปิดเผย เพื่อยกระดับพื้นฐานของประเทศคือระบบขนส่งและสาธารณูปโภคที่จำเป็น เพื่อการขยายตัวของประเทศในเวทีโลก และมีความจำเป็นต้องมีความเข้มแข็งในทุกๆ ด้าน เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ส่วนกรณีการตัดสินใจลาออกจากการเป็นส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยของนายเกษม นิมมลรัตน์ และมีกระแสข่าวว่าจะให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ลงสมัครแทนนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เมื่อนายเกษมลาออก เพื่อไปทำงานในสิ่งที่ถนัดมากกว่า คือการลงไปดูแลประชาชนในพื้นที่ ก็เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยที่ต้องคัดสรรคนเข้ามาสมัคร ส.ส.แทนนายเกษม ซึ่งเหมือนกับทุกพรรคที่ต้องคัดเลืกคนเข้ามาสมัครเช่นกัน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญานจะในตัดสินใจเลือกผู้แทนของตนเอง พร้อมยืนยันว่าไม่มีกรณีนายกฯ สำรอง หรือนายกฯ คนที่ 2 อย่างแน่นอน เพราะยังไม่เห็นว่าจะมีเหตุทางการเมืองที่จะทำให้นายกฯ ต้องหลุดออกจากตำแหน่งได้ อีกทั้งการที่นางเยาวภา จะลงสมัครเป็นเรื่องปกติ เพราะเคยเป็นส.ส.ในพื้นที่