รัฐบาลไซปรัสเตรียมหาทางกู้วิกฤตการเงิน
รัฐบาลไซปรัสจะถูกนำเสนอแผนสองต่อรัฐสภาในวันนี้ (21 มี.ค.2556) โดยก่อนหน้านี้ นายนิคอส อนาสตาเซียเดส ประธานาธิบดีไซปรัส ได้ชี้แจงแผนสองให้กับหัวหน้าพรรคการเมืองรับทราบแล้ว มีรายงานว่าแผนนี้จะมีมาตรการเก็บภาษีเงินฝากรวมอยู่ด้วย แต่มีการปรับเปลี่ยนขั้นบัญชีเงินฝากที่จะถูกเก็บภาษีใหม่ และจะมีการตั้งกองทุนเพื่อการลงทุน โดยจะดึงเงินมาจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ,จากอสังหาริมทรัพย์,จากพันธบัตรและการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติ
ทั้งนี้รัฐบาลไซปรัสจำเป็นต้องจัดทำแผนลดรายจ่ายและหาทางเพิ่มรายได้ให้กับภาครัฐ ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการขอรับความช่วยเหลือจากธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบี มูลค่าหมื่นล้านยูโรหรือประมาณ 4 แสนล้านบาท
หากรัฐบาลไซปรัสบังคับเก็บภาษีเงินฝากจริงผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่เพียงชาวไซปรัส แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติที่มีบัญชีเงินฝากที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวรัสเซียที่นำเงินมาลงทุนและฝากไว้ในธนาคารของไซปรัสรวมประมาณ 31,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 930,000 ล้านบาท ด้านนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียได้แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยบอกว่าการเก็บภาษีเงินฝากถือเป็นวิธีการที่ไม่ยุติธรรม, อันตรายและเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของยุโรปและของทั้งโลก
รัฐบาลไซปรัสพยายามมองหาทางเลือกอื่น ในกรณีที่อาจจะไม่ได้เงินช่วยเหลือจากธนาคารกลางของยุโรป ทำให้ไซปรัสไปขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย โดยส่งรัฐมนตรีคลังไปเจรจาเพื่อขอความช่วยเหลือด้านการเงินและขอผ่อนผันการชำระหนี้ ที่ไซปรัสกู้มาจากรัสเซียเมื่อ 2 ปีก่อนมูลค่า 2,500 ล้านยูโรหรือประมาณ 75,000 ล้านบาท
ทั้งนี้กระทรวงการคลังของไซปรัสจึงประกาศให้ธนาคารหยุดทำการในวันที่ 21-22 มี.ค.2556 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของสาธารณะ