แนวทางลดผลกระทบผู้ค้าย่านสนามหลวง
การปิดปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวง ส่งผลให้ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ที่เคยค้าขายบริเวณนั้น ต้องย้ายไปขายในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งหลายคนพูดตรงกันว่าสถานที่ใหม่ทำให้รายได้ลดลง และหวังว่ากรุงเทพมหานครจะทำถนนคนเดินตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิชาการด้านผังเมืองเสนอการจัดตั้งสหกรณ์ เพื่อจัดระบบผู้ค้า และสร้างแหล่งเงินทุนที่ยั่งยืน
กว่า 1 ปีแล้วที่กรุงเทพมหานคร ปิดปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวง ทำให้บรรดาผู้ค้าหาบเร่แผงลอยกว่าพันราย ที่เคยใช้พื้นที่โดยรอบหาเลี้ยงชีพ ต้องย้ายมาค้าขายบริเวณริมคลองหลอด โดยผู้ค้าของเก่ายอมรับว่าตั้งแต่ย้ายมาริมคลองหลอด รายได้ลดลงจากเดิม จากที่เคยขายได้วันละหลายพันบาท แต่ตอนนี้เหลือเพียง 700-800 บาทเท่านั้น ทำให้ต้องกู้หนี้นอกระบบมาเป็นเงินทุน จึงเห็นด้วยหากกรุงเทพมหานครจะจัดถนนคนเดินบริเวณนี้
ขณะที่ผู้ค้าบริเวณด้านข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การที่ กทม.ไม่อนุญาตให้นำรถมาจอดภายสนามหลวงเหมือนที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการค้าขาย
ขณะที่ รศ.ชูวิทย์ สุจฉายา นักวิชาการสถาบันอาศรมศิลป์ ซึ่งเคยทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานครในการหาแนวทางแก้ปัญหาหาบเร่ แผงลอย กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเตรียมจัดพื้นที่ริมคลองหลอด ถนนอัษฏางค์ และบริเวณซอยด้านหลังโรงแรมรัตนโกสินทร์ เป็นถนนคนเดิน เพื่อเปิดพื้นที่ให้มีการค้าขาย และถือเป็นการสร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้พื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นเพื่อนำการบริหารจัดการมาสร้างระบบให้แก่ผู้ค้า
รศ.ชูวิทย์ กล่าวอีกว่า สหกรณ์จะมีส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนด้านเงินทุน ซึ่งถือเป็นหลักประกันในการสร้างความมั่นคงให้แก่ผู้ค้าได้ในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าแนวคิดนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า เพราะได้รับเสียงตอบรับจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี