ตำรวจปฏิเสธไม่บังคับห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ท้ายรถกระบะ

อาชญากรรม
5 เม.ย. 56
04:45
170
Logo Thai PBS
ตำรวจปฏิเสธไม่บังคับห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ท้ายรถกระบะ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่าไม่เคยมีคำสั่งห้ามเล่นสงกรานต์ท้ายรถกระบะ หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ระบุถึง ข้อห้าม 11 ข้อในวันสงกรานต์ ซึ่งมีการระบุว่า เป็นมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ยอมรับว่ามีมาตรการเข้มข้นเกี่ยวกับการป้องกันเหตุอาชญากรรม ตามคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการโพสต์ข้อความบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยปรากฏเนื้อหาระบุข้อห้ามในการเล่นน้ำสงกรานต์ 11 ข้อ ซึ่งอ้างว่า ออกโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีข้อห้ามในการเล่นสงกรานต์ โดยเนื้อหาดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้เป็นผู้จัดทำแต่อย่างไร ประชาชนยังสามารถเล่นน้ำ นั่งหลังรถกระบะ ขายแป้ง และใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่กรณีที่มีการเล่นน้ำจนเกินเลยหรือกระทำการที่สุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดอันตราย เช่น จำหน่ายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เปิดเครื่องเสียงส่งเสียงดังในเขตชุมชนรบกวนชาวบ้าน หากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

ส่วนกรณีกฎหมายห้ามดื่มสุราบนรถทั้งคนขับ และผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจะวางแนวทางปฏิบัติในการจับกุม หากพบว่ากำลังดื่มสุราบนรถก็ต้องดำเนินคดี แต่หากผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่อยู่บนรถมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุราโดยตรวจไม่พบสุราบนรถ เจ้าหน้าที่อาจให้หยุดพักรถจนกว่าอาการดีขึ้นจึงปล่อยกลับบ้านโดยไม่มีการจับกุม หรือผู้ที่อยู่ในอาการมึนเมาสามารถกลับรถแท็กซี่ได้ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการมาตรการป้องกันอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธร และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. จัดทำแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยพิจารณาตามความเหมาะสมกับพื้นที่ และสถานการณ์มากที่สุด

รวมถึงกวดขันเอาผิดในเรื่องการห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มสุราในสถานที่ ช่วงเวลา และบุคคลที่ห้ามจำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พร้อมทั้งกวดขันสถานบริการให้ดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะสถานบันเทิงที่จัดให้มีการเต้นหน้าร้านเพื่อเชิญชวนให้ผู้ที่สัญจรไปมาเข้าร้าน และกวดขันจับกุมการแข่งรถในทางสาธารณะ กลุ่มบุคคลหรือวัยรุ่นมั่วสุมที่มีพฤติการณ์เป็นนักเลงอันธพาลเป็นภัยต่อสังคม โดยต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่กระทำความผิดในทุกกรณี


ข่าวที่เกี่ยวข้อง