ทั่วประเทศ 
โรงพยาบาลจ.สตูล สำรองน้ำมันเชื้อเพลิง และเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ จำนวน 4 เครื่อง เพื่อรองรับวิกฤติไฟฟ้า หลังแหล่งก๊าซพม่า หยุดซ่อมท่อก๊าซ วันที่ 5-14 เมษายน นายประทีป ทองแก้ว หัวหน้าซ่อมบำรุงโรงพยาบาลสตูล ยืนยันว่า ช่วง 2-3 วันนี้ หากไฟฟ้าดับ จะไม่ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาล เพราะเตรียมความพร้อมไว้แล้ว รวมทั้งใช้มาตรการประหยัดพลังงาน งดใช้ไฟฟ้าในจุดที่ไม่จำเป็น
ส่วนในจ.พังงา แม้จะไม่ได้รับผลกระทบจาก แต่โรงแรมหลายแห่ง ได้เปลี่ยนมาใช้หลอดประหยัดพลังงานแอลอีดี จาก 60 วัตต์ เป็น 5 วัตต์ เพื่อร่วมประหยัดพลังงานเช่นกันพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจุดที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระบุว่า อาจได้รับผลกระทบจากการหยุดซ่อมท่อก๊าซของพม่า เนื่องจากใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งส่วนใหญ่รับก๊าซจากพม่า ซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาว และอีกร้อยละ 30 จากการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ทำให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมแผนซื้อไฟฟ้าจากลาว เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 20 จากเดิมร้อยละ 42 เพื่อป้องกันปัญหาวิกฤติขาดแคลนไฟฟ้า
ขณะที่ภาคธุรกิจ หลายแห่ง เริ่มปฎิบัติตามมาตรการประหยัดพลังงานของรัฐบาล เช่น ห้างสรรพสินค้า ในจังหวัดอุดรธานี ที่ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ขึ้น 1 องศา และเลื่อนเวลาเปิดไฟของห้าง ให้ช้าลง ซึ่งจะประหยัดไฟได้ร้อยละ 10 ต่อวัน
ส่วนในภาคเหนือ นายเสณิต เจตนาวิชโมก์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการภาคเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ใช้ไฟฟ้า พบว่า ยังไม่มีปัญหาไฟฟ้าติดขัด และมีช้การใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าเมื่อวาน (4เม.ย.56) แต่คาดว่า ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป จะมีผู้ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเวลา 20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนภาคเหนือ ใช้ไฟฟ้าสูงสุด แต่การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ได้เตรียมไฟฟ้าสำรอง ไว้รองรับ เชื่อว่า จะไม่เกิดปัญหาไฟดับ