ประชาชนร่วมมือประหยัดไฟ หลังพม่าหยุดจ่ายก๊าซ
การเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนพลังน้ำ รวมถึงความร่วมมือประหยัดไฟฟ้าจากภาคอุตสาหกรรมและประชาชน ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลง ทำให้ไม่เกิดปัญหาไฟฟ้าดับ
ปริมาณการใช้ไฟฟ้าวันนี้น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงเวลา 9.00 น. แสดงถึงความร่วมมือลดใช้ไฟฟ้า ขณะที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือ พีคของวันนี้อยู่ที่ 24,955 เมกะวัตต์ ในเวลา 14.00 น. ต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ 1,700 เมกะวัตต์ หรือ ไฟฟ้าสำรองเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2,400 เมกะวัตต์ แม้อุณหภูมิจะสูงถึง 38-39 องศาเซลเซียส จึงไม่มีปัญหาระบบไฟฟ้า
การใช้ไฟที่ลดลง ส่งผลให้การใช้น้ำมันเตาและดีเซลสำหรับผลิตไฟฟ้าน้อยลงด้วย ทำให้ไม่ต้องปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ เอฟที ในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม
ขณะที่การผลิตไฟฟ้าส่วนหนึ่งในวันนี้ เพิ่มขึ้นจากการปล่อยน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์ และศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ที่มีร้อยละ 70 ของความจุอ่าง และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้ารวม 1,000 เมกะวัตต์
การปล่อยน้ำเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านได้วางแผนใช้เขื่อนท่าทุ่งนา และเขื่อนแม่กลอง มาลดความแรงกระแสน้ำ เพื่อไม่ทำให้น้ำท่วมที่พักอาศัยและพื้นที่เพาะปลูก เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2552
หลังจากไม่เกิดวิกฤติไฟฟ้าวันนี้ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ขอความร่วมมือประหยัดไฟฟ้าต่อเนื่องในวันที่ 9-10 เมษายน 2556 ที่มีปริมาณไฟฟ้าสำรองสูงกว่าระดับมาตรฐานเพียงเล็กน้อย แต่มั่นใจจะไม่เกิดปัญหาขึ้นในวันดังกล่าว ส่วนระยะยาวขาดความมั่นคง จึงขอร้องประชาชนและกลุ่มเอ็นจีโอ สนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ แต่หากถูกคัดค้าน ก็ต้องลงทุนสร้างในต่างประเทศแทน
นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เจรจากับรัฐบาลพม่าสร้างโรงไฟฟ้าที่นิคมอุตสาหกรรมทวาย ในพม่า 4,000 เมกะวัตต์ แต่เฟสแรกเริ่มสร้าง 1,800 เมกะวัตต์ เบื้องต้น จะส่งไฟฟ้าขายให้ไทย จนกว่าจะมีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่