แนะเที่ยวสงกรานต์ "เจ็บป่วย"เข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล ฉุกเฉินมาตรฐานเดียว

สังคม
8 เม.ย. 56
05:38
149
Logo Thai PBS
แนะเที่ยวสงกรานต์ "เจ็บป่วย"เข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล ฉุกเฉินมาตรฐานเดียว

ผลงานเจ็บป่วยฉุกเฉิน 1 ปี พบประชาชนเข้าถึงบริการ 22,836 ราย ในรพ.เอกชน 241 แห่ง สิทธิข้าราชการเข้าถึงสูงสุด จ่ายชดเชยแล้ว 296 ล้านบาท พื้นที่กทม.ให้บริการผู้ป่วยสูงสุด เผยแนวคิดเจ็บป่วยฉุกเฉิน 3 กองทุนให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ได้รับการรักษาทันที โดยเฉพาะอุบัติเหตุช่วงเทศกาลหยุดยาว ผู้ประสบเหตุฉุกเฉินถึงแก่ชีวิตเข้าได้ทุกรพ.ที่อยู่ใกล้ ไม่ต้องสำรองจ่าย

 นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิต ไม่ถูกถามสิทธิ์ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียว 3 กองทุน ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 ผลการดำเนินการ 1 ปี จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2556 โดย มีผู้ป่วยเข้าถึงบริการ 22,836 ราย จากรพ.เอกชน 241 แห่ง เป็นสิทธิข้าราชการสูงสุด 12,054 รายหรือร้อยละ 52.78 สิทธิหลักประกันสุขภาพ 9,252 ราย หรือร้อยละ 40.51 สิทธิประกันสังคม 1,480 รายหรือร้อยละ 6.48 และ สิทธิอื่นๆ เช่น สิทธิข้าราชการท้องถิ่น/รัฐวิสาหกิจ ผู้มีปัญหาสถานะสิทธิ 50 รายหรือร้อยละ 0.3 เมื่อพิจารณาแนวโน้มของสิทธิพบว่า สิทธิข้าราชการมีแนวโน้มเข้ารับบริการสูงขึ้นเรื่อยๆ 

 
เลขาธิการสปสช. กล่าวต่อว่า อาการหรือโรคที่เข้ารับบริการส่วนใหญ่ คือ  หัวใจล้มเหลว หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ติดเชื้อในกระแสเลือด หัวใจหยุดเต้น มีเลือดออกในสมอง เป็นต้น พื้นที่ที่ให้บริการสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 9,647 ราย หรือร้อยละ 42.24 โดยที่สปสช.ทำหน้าที่เป็นหน่วยชำระเงินกลางแทน 3 กองทุน จ่ายเงินชดเชยแล้วจำนวน 16,928 ราย เป็นเงิน 296 ล้านบาท ที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการ
 
วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ ซึ่งมีการเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก เมื่อประสบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิตสามารถเข้ารักษาได้ทุกรพ.ที่อยู่ใกล้ โดยแต่ละรพ.ที่ให้การรักษาให้เบิกจ่ายมายังสปสช. ให้ผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นศูนย์กลาง ได้รับบริการเพื่อช่วยชีวิตและลดความพิการ โดยไม่ต้องถามสิทธิ์ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน  ทั้งนี้เน้นในกลุ่มที่ผู้ป่วยวิกฤติ  คือผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติและเร่งด่วน เน้นบริการฉุกเฉินที่รพ.เอกชนนอกระบบ 3 กองทุนสุขภาพ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน สปสช.1330 หรือ สายด่วน 1669 ได้ทั่วประเทศ
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง