รมว.ใหม่ กระทรวงท่องเที่ยว เตรียมปรับแก้กฎหมายท่องเที่ยวล้าสมัย หวั่นทำให้ขับเคลื่อนนโยบายช้า

สังคม
8 เม.ย. 56
06:16
94
Logo Thai PBS
รมว.ใหม่ กระทรวงท่องเที่ยว เตรียมปรับแก้กฎหมายท่องเที่ยวล้าสมัย หวั่นทำให้ขับเคลื่อนนโยบายช้า

นายสมศักย์ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งจากภาครัฐและเอกชนมาร่วมประชุมเสนอแนะเกี่ยวกับการนโยบายขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของไทยอีกครั้ง วันที่10 เมษายนนี้

 นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จะมอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวไปดูข้อกฎหมายและพ.ร.บ.ต่างๆที่คิดว่าเป็นอุปสรรคกับกระบวนการทำงานด้านท่องเที่ยวเพราะกฎหมายบ้างตัวนั้นเป็นกฎหมายที่ใช้มานานล้าสมัย ทำให้ทำงานได้ช้า หากต้องการให้ขับเคลื่อนคล่องตัวและมีประสิทธิภาพก็จะต้องแก้ไขหรือเพิ่มอำนาจในกฎหมายหรือพ.ร.บ.ท่องเที่ยวบางตัวด้วยนอกจากนี้เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวยังเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไข เล็งเห็นว่าอาจจะตั้งศาลท่องเที่ยวโดยจะหารือถึงความเป็นไปได้กับกระทรวงยุติธรรมต่อไป 

 
สำหรับกฎหมายหรือพ.ร.บ.ท่องเที่ยวที่มีอยู่นั้นบางอย่างไม่สมควรจะใช้เวลาในการดำเนินการนานเช่น การของบประมาณเพียง 5 ล้านบาท แต่กลับต้องใช้เวลาในการทำเอกสารขออนุมัติงบฯ เป็นเวลานานทำให้เสียเวลาที่จะนำงบไปใช้ซึ่งขัดกับนโยบาย 2 ล้านล้านบาทที่ต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วรวมถึงปัญหาเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เป็นปัญหาใหญ่ของไทยมานานและสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไม่มีความปลอดภัยก็ควรจะมีบทลงโทษที่ชัดเจนไม่ควรลดหย่อนโทษ เพราะปัญหานี้ถือว่าเป็นอาชญากรร้ายแรง มีเจตนากระทำที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยยกประเทศญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นต้นแบบเพราะเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง 
 
นายสมศักยก์ กล่าวว่า ยังมีปัญหาว่าที่ผ่านมากระทรวงฯให้ความสำคัญกับกีฬามากกว่าเรื่องท่องเที่ยวนายสมศักย์มองว่าอาจเพราะบุคคลากรทั้งจากส่วนกลางและภูมิภาคเป็นคนของกรมพลศึกษาเป็นส่วนใหญ่จึงเข้าใจเกี่ยวกับกีฬามากกว่าเรื่องท่องเที่ยวก็จะต้องนำบุคลากรที่มีมาปรับพื้นฐานสร้างความคิดเกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยวเพิ่ม 
 
ด้านการทำงานของกระทรวงร่วมกับเอกชนถือว่าเป็นส่วนสำคัญโดยอยากให้เปลี่ยนจากที่เอกชนจะรับแต่นโยบายจากรัฐบาลมาเป็นให้มาช่วยเสนอความคิดเห็นมากกว่าเพราะรายได้ท่องเที่ยวส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากการที่เอกชนเป็นผู้ทำด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ร่างกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เป็นตัวเลขที่กระทรวงจะต้องรับผิดชอบบวกกับประเทศไทยจะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นจากการปรับโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยที่ลงทุน
 
 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง