กรมขนส่งทางบกวอน ผู้ประกอบการเลี่ยงขนส่ง"วัตถุอันตราย"ช่วงสงกรานต์นี้

สิ่งแวดล้อม
8 เม.ย. 56
06:20
233
Logo Thai PBS
กรมขนส่งทางบกวอน ผู้ประกอบการเลี่ยงขนส่ง"วัตถุอันตราย"ช่วงสงกรานต์นี้

ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะเพื่อลดความแออัดในการเดินทาง และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

 นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าโดยเฉพาะการขนส่งวัตถุอันตราย  ในการหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2555 เพื่อเป็นการสนับสนุนการเดินทางของประชาชน ในช่วงเวลาดังกล่าว  ซึ่งมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ประกอบการรายใดที่มีความจำเป็นต้องขนส่งสินค้า ขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อลดปัญหาการจราจร และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากรถบรรทุกสินค้า 

 
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีปริมาณรถโดยสารสาธารณะ ที่ให้บริการในเส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่าง ๆ ระหว่างวันที่ 9 - 13 เมษายน 2555 จำนวน 33,656 เที่ยว ผู้โดยสารใช้บริการ จำนวน 955,928 คน ส่วนรถโดยสารสาธารณะที่ให้บริการประชาชนจากจังหวัดต่าง ๆ มายังกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 14 – 18 เมษายน 2554 มีจำนวน 30,598 เที่ยว ผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 765,686 คน จากข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า มีจำนวนรถโดยสารสาธารณะที่วิ่งบนท้องถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจร และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน กรมการขนส่งทางบกจึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าให้หลีกเลี่ยงเส้นทางในช่วงเวลาดังกล่าว 
 
ทั้งนี้ สถิติจำนวนรถบรรทุกที่จดทะเบียนสะสม ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 พบว่า มีจำนวน 908,244 คัน เป็นรถบรรทุกไม่ประจำทาง จำนวน 205,843 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคล จำนวน 702,401 คัน ซึ่งหากช่วงเทศกาลสงกรานต์รถดังกล่าวได้มีการหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น จะเป็นการช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัด และช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกทางหนึ่ง  พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการกำชับพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ"แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์" และพนักงานขับรถที่ขับรถติดต่อกันเกิน 4 ชั่วโมง ต้องเปลี่ยนคนขับ หรือต้องหยุดพักไม่น้อยกว่า 30 นาที จึงจะขับรถต่อไปได้ ฝ่าฝืนโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท


ข่าวที่เกี่ยวข้อง