มูลนิธิเมาไม่ขับตั้งเป้าลดอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายมอบ 1 ล้านบาทให้จังหวัดที่มียอดตายเป็นศูนย์

สังคม
11 เม.ย. 56
04:12
104
Logo Thai PBS
มูลนิธิเมาไม่ขับตั้งเป้าลดอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายมอบ 1 ล้านบาทให้จังหวัดที่มียอดตายเป็นศูนย์

หลายหน่วยงาน ออกมาตรการคุมเข้มรับมืออุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตราย โดยเริ่มนับสถิติอุบัติเหตุตั้งแต่วันนี้(11 เม.ย.) จนถึงวันที่ 17 เมษายนนี้ เบื้องต้นตั้งเป้าผู้เสียชีวิตเป็นศูนย์ ซึ่งปีนี้ยังคงมีการมอบรางวัลให้กับจังหวัดที่ไม่มียอดผู้เสียชีวิต เช่นเดียวกับปีก่อน

เทศกาลสงกรานต์ปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าในการลดอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด โดยคาดหวังให้ไม่มีการเสียชีวิตในช่วงเทศกาล ซึ่งสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์เมื่อปี 2555 นั้น มีผู้บาดเจ็บรวม 3,320 คน เสียชีวิต 320 คน ซึ่งในปีก่อนก็มีการตั้งเป้าหมายในลักษณะเดียวกัน คือลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด แต่หากย้อนกลับไปในปี 2554 จะพบว่า ยอดผู้เสียชีวิตในปี 2555 สูงกว่า ปี 2554 ที่มียอดผู้เสียชีวิต 271 คน

นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ผู้ดำเนินโครงการสงกรานต์ปลอดภัยตายเป็นศูนย์ ที่ร่วมจัดโครงการกับภาคีเครือข่าย เปิดเผยว่า ปีนี้ยังคงตั้งรางวัลสำหรับจังหวัดที่มียอดตายเป็นศูนย์เช่นเดิม แบ่งพื้นที่เป็นโซนอันตราย

เช่น โซนสีแดงความเสี่ยงสูง 15 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด จันทบุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น นครศรีธรรมราช สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพฯ เพชรบูรณ์ เชียงราย นครสวรรค์ เชียงใหม่ นครราชสีมา และพิษณุโลก หากไม่มีผู้เสียชีวิตจะให้ 1 ล้านบาท พร้อมโล่เกียรติยศ ส่วนพื้นที่เสี่ยงน้อยจะลดหลั่นกันไป โดยน้อยที่สุดจะได้ 30,000 บาท

ขณะที่มาตรการดูแลการเดินทางนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 ในวันนี้(11 เม.ย.) โดยประสานข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน ระดับพื้นที่ในแต่ละวัน ช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2556 หรือช่วง 7 วันอันตราย ซึ่งผลของการรวบรวมข้อมูลจากศูนย์ต่างๆ จะมีการนำมาวิเคราะห์สาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง และปรับมาตรการแนวทางในการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสภาพจุดเสี่ยงและช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชนในแต่ละพื้นที่

ส่วนการดูแลความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย 18 องค์กร จัดกำลังตำรวจ 80,000 นายลงพื้นที่ทั่วประเทศ ดูแลความปลอดภัยในการเดินทาง เน้นถนนจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง รวมถึงลงพื้นที่ที่มีการจัดเล่นสาดน้ำสงกรานต์ อาทิ ถนนข้าวสาร ถนนสีลม ถนนอักษะ ถนนข้าวเหนียว รวมทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยจะบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ขณะที่ข้อกังวลของประชาชน และความสับสนในการเล่นสาดน้ำสงกรานต์บนรถกระบะ มีคำยืนยันจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วว่า โดยข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรฯ ระบุว่า ห้ามนั่งหรือยืนบนกระบะที่ไม่มีหลังคา ดังนั้นการเล่นสาดน้ำบนกระบะถือว่าอันตราย แต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ตำรวจจะพิจารณาถึงความปลอดภัยเป็นหลัก หากยืนสาดน้ำขณะรถวิ่งถือว่าอันตราย ตำรวจจะเรียกมาตักเตือนและแนะนำความปลอดภัย เพราะมีเป้าหมายไม่เน้นจับกุม เนื่องจากต้องการให้ประชาชนสนุกสนานกับเล่นสงกรานต์ ส่วนการดื่มเหล้าหรือจำหน่ายสุรา เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เช่นเดียวกับการทำอนาจาร เต้นโชว์ลามก ทั้ง 2 กรณีจะถูกจับกุมทันที

ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงมาตรการดูแลความปลอดภัย ของกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมด้านกำลังเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์ช่วยเหลือ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงานปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลของกรุงเทพมหานครขึ้น เพื่อดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ สำนักงานวิศวกรรมจราจร สำนักงานจราจรและขนส่ง เขตดินแดง และศูนย์อำนวยการ ณ สำนักงานเขต โดยศูนย์ดังกล่าวได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมให้บริการประชาชน ดูแล รับแจ้งเหตุและประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนการอำนวยความสะดวกในช่วงของการเดินทางนั้น กทม.ได้ตั้งเต็นท์ให้บริการประชาชน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่และ อป.พร. พร้อมรถกู้ภัยประจำจุดเสี่ยงบริเวณสี่แยกสำคัญๆ ทั้งสี่มุมเมือง ได้แก่ สำนักงานเขตบางนา ตั้งบริเวณหน้าเอส บี เฟอร์นิเจอร์ เขตหนองแขม ตั้งบริเวณหน้าสำนักงานเขต เขตบางขุนเทียน ตั้งบริเวณหน้าปั๊มเชลล์ ขาออก เขตทวีวัฒนา ตั้งบริเวณหน้าปั๊มคาลเท็กซ์ ขาออก เขตดอนเมือง ตั้งบริเวณปากซอยพหลโยธิน ขาออก เขตหนองจอก ถนนสุวินทวงศ์ ตั้งบริเวณถนนฉลองกรุง แยกลำผักชี และเขตจตุจักร ตั้งริมถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก ช่วงหน้าวัดเสมียนนารี เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนนและสาธารณภัยที่เกิดขึ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง