ถึงแม้จะได้ฝึกสอนนักเทนนิสไทยเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่เอมิลิโอ ซานเชซ สามารถมองปัญหาของการพัฒนา รวมถึงการสะท้อนให้เห็น การทำงานแบบมืออาชีพ ในฐานะผู้ก่อตั้งอะคาเดมีในสเปน
เป้าหมายที่ซานเชซ ยืนชัดเจนที่สุดคือพยายามที่จะช่วยเหลือนักเทนนิสของไทย ด้วยระบบการฝึกสอนตามแผนงานของเขา ซึ่งเขาจะพยายามเต็มที่เพื่อการพัฒนานักเทนนิส อย่างที่เคยพัฒนานักเทนนิสให้ได้ แชมเปี้ยนทั้งในสเปน และนักเทนนิสจากนานาชาติ จากอะคาเดมีของเขา
หลังการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด ซานเชซ วิเคราะห์ว่า นักเทนนิสไทยมีความสามารถ แต่มีปัญหาคือเส้นทางในการพัฒนาสู่ระดับอาชีพ ใช้เวลานานเกินไป และนักเทนนิสควรจะประสบความสำเร็จในระดับโลกในช่วงอายุประมาณ 18-19 ปี แต่นักเทนนิสไทยได้เล่นอาชีพเต็มตัว ตอนอายุ 23-24 ปี
นอกจากนี้ซานเชซ แนะนำว่า นักกีฬาจะประสบความสำเร็จต้องมี 3 ปัจจัย คือความแข็งแกร่งของสภาพร่างกาย ,ทักษะความสามารถ และความแข็งแกร่งของจิตใจ รวมถึงความกระหายชัยชนะ
ปัจจุบันมีนักเทนนิสจำนวน1,000 คน ต่อสู้เพื่อก้าวสู่การเล่นอาชีพ การแข่งขันมีสูงมาก จึงต้องมีความมุ่งมั่น
โดยหนึ่งในนักเทนนิสดาวรุ่งของไทย ที่มีโอกาสได้เรียนรู้วิธีการฝึกสอน ในแบบของซานเชซ คือกมลวรรณ บัวแย้ม ในวัย 17 ปี ปัจจุบันเป็นมืออันดับ 66 ในระดับจูเนียร์
นอกจากนี้นักเทนนิสเองไม่มีความแน่ใจ กับแผนการฝึกซ้อมที่มีโค้ชระดับอาชีพ เพราะนักเทนนิสมีมาก ทำให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ไม่เต็มที่
ถ้าจะให้ได้ผล อะคาเดมีต้องเข้มงวดและจริงจัง ซึ่งอะคาเดมีของซานเชสในสเปน ของเขาใช้ระบบการสอน ควบคู่กับระบบการเรียนหนังสือที่อยู่ด้วยกัน
ส่วนในสหรัฐอเมริกากำลังอยู่ระหว่างการขยาย และเพิ่มเติมระบบการเรียนหนังสือควบคู่กันไป สิ่งหนึ่งที่ซานเชซเป็นกังวลคือการทำอะคาเดมี เป็นการสร้างนักเทนนิสที่มีความแตกต่าง หลากหลายซึ่งถนัดอยู่แล้ว
แต่การทำงานร่วมกับลอนเทนนิส เป็นการสร้างนักเทนนนิสในระดับประเทศ ซึ่งมีความคาดหวังว่าจะได้นักเทนนิสที่ดีที่สุดเท่านั้น