เวลาเที่ยงคืนแห่งการประกาศเอกราช เกิดปาฏิหาริย์ให้เด็กที่เกิดในช่วงเวลาเดียวกันมีพลังพิเศษ หนึ่งในนั้นคือซาลีม ไซนาย จากครอบครัวยากจนในชุมชนแออัด ที่ถูกสลับตัวโดยบังเอิญกับเศรษฐี และมีชะตากรรมผูกผัน เหมือนจากอินเดียบ้านเกิดที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญทางประวัติศาสตร์ ใช้เวลาถึง 30 ปีกว่า มิดไนท์ ชิลเดรน หนังสือดังของซัลแมน รัชดี จะได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อินเดีย เพราะนักเขียนจะสร้างผลงานอื้อฉาวในวงการวรรณกรรมมายาวนาน และผู้กำกับหญิง ดีปา เมห์ทา มีชื่อเรื่องการสร้างหนังจุดประเด็นขัดแย้งด้านศาสนาหลายครั้ง โดยรอบปฐมทัศน์ในเมืองมุมไบต้องมีการวางกำลังตำรวจเพื่อป้องกันความรุนแรง ขณะที่หนังสือซึ่งกวาดรางวัลมาหลายเวที เคยถูกนางอินธิรา คานธีฟ้อง ให้ตัดบางประโยคจากหนังสือทิ้ง รวมทั้งเคยถูกแบนในปากีสถานจากการวิพากษ์ประธานาธิบดี เซีย อัล ฮัก ในทางเสื่อมเสีย
แม้ใช้กลวิธีเล่าเรื่องแบบแฟนตาซีผ่านชีวิตของเด็กคนหนึ่ง แต่มีฉากหลังอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งทางเชื้อชาติและศาสนา ตั้งแต่อินเดียยุคใหม่ที่เพิ่งได้รับอิสรภาพ ไปจนถึงการแบ่งแยกระหว่างมุสลิม ฮินดู และซิกข์ ที่จบลงด้วยการแยกประเทศออกเป็นบังคลาเทศ เป็นประสบการณ์ที่เคยรับรู้ปัญหาในบ้านเกิด แต่กลายเป็นคนอินเดียพลัดถิ่นจากผลงานที่สร้างความขัดแย้ง ทำให้นักเขียนและผู้กำกับรู้สึกว่าตัวเองเป็นบุคคลสองวัฒนธรรม ที่มองอินเดียจากสายตาคนในและคนนอก
มิดไนท์ ชิลเดรน หมายถึงเด็กที่เกิดในช่วงเวลาเที่ยงคืน ช่วงที่มืดมิดที่สุดของวัน เปรียบเหมือนกับอนาคตของประเทศอินเดียที่ตอนนั้นไม่มีใครรู้ได้ว่าจะก้าวสู่ความมืดมิดหรือแสงสว่าง ท่ามกลางความขัดแย้งที่บ่อยครั้งผู้นำใช้อำนาจกึ่งเผด็จการในนามของการรักษาประชาธิปไตย แม้จะเขียนขึ้นมากกว่า 30 ปี แต่ซัลมาน รัชดี ก็หวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะส่งถึงผู้ชมรุ่นหลัง ซึ่งการได้เห็นเด็กรุ่นใหม่มาดูหนังเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในเสียงตอบรับที่ดีที่สุด