ปชช.เชื่อศาลโลกตัดสิน 
ชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงปราสาทโดนตวล บนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งจัดขึ้นทุกวันที่ 20 เมษายนของทุกปี ตามความเชื่อและเพื่อความเป็นสิริมงคล ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่จากกองกำลังสุรนารีประมาณ 50 นาย ที่คอยรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบปราสาทโดนตวล แต่ไม่มีกลุ่มมวลชนเข้ามาเคลื่อนไหวเพื่อสร้างสถานการณ์ โดยพิธีบวงสรวงครั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงของไทยไม่ได้แจ้งให้ทางกัมพูชารับทราบ เนื่องจากปราสาทโดนตวลอยู่ในเขตอธิปไตยของไทย
นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันต.เสาธงชัย ระบุว่า มีชาวบ้านมาร่วมงานค่อนข้างน้อย เนื่องจากขาดการประชาสัมพันธ์ และมีการปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ประกอบกับเป็นช่วงที่มีการให้ถ้อยแถลงด้วยวาจาทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาต่อศาลโลก ในคดีปราสาทพระวิหาร ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มั่นใจในสถานการณ์
ส่วนปฏิกิริยาของชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอ.ภูสิงห์ เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา พบว่า มีชาวบ้านและผู้ประกอบการติดตามการถ่ายทอดสดกรณีผู้แทนฝ่ายไทยแถลงปิดคดีด้วยวาจาต่อศาลโลก ทั้งนี้เห็นว่า ฝ่ายไทยนำข้อมูลมาหักล้างฝ่ายกัมพูชาได้ดี
ขณะที่จ.พิษณุโลก ประชาชนต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น โดยระบุว่า การต่อสู้ในศาลโลกครั้งนี้ ทำให้ประชาชนมีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์เพิ่มมากขึ้น และแม้คำตัดสินจะออกมาอย่างไร ขอให้ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศพูดคุยกัน และคำนึงถึงสันติภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลัก เช่นเดียวกับชาวจังหวัดเชียงใหม่บางส่วนเห็นว่า ทีมกฎหมายของไทยทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว คำตัดสินออกมาอย่างไรทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับ โดยไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง
ขณะที่ประชาชนชาวจ.น่านเชื่อว่า ศาลโลกจะพิจารณาคดีด้วยความเป็นธรรมและเป็นกลาง ส่วนชาวจ.สงขลา มองว่า ตัวแทนทนายความของฝ่ายไทย มีข้อมูลชี้แจงต่อศาลโลกชัดเจนมากกว่าฝ่ายกัมพูชา