หนุนไทยเลือดใหม่ นำร่อง "มาย เฟิร์สต์ แอพ" โนเกียร่วมม.รังสิต ผลักดันนักพัฒนาแอพฯรองรับ 3จี

Logo Thai PBS
หนุนไทยเลือดใหม่ นำร่อง "มาย เฟิร์สต์ แอพ" โนเกียร่วมม.รังสิต ผลักดันนักพัฒนาแอพฯรองรับ 3จี

โนเกียร่วมกับคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต จัดโครงการ (My First App) สนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยี จัดฝึกอบรม และสร้างแลบปฏิบัติการ เพื่อสร้างนักพัฒนาแอพ

 นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายสนับสนุนนักพัฒนา บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุค 3G เต็มรูปแบบ ทำให้เกิดการขยายตัวของการใช้งานอุปกรณ์และระบบสื่อสารเคลื่อนที่ รวมถึงความต้องการด้านแอพพลิเคชั่นเพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น แอพเพื่อการสนทนา แอพสังคมออนไลน์แอพด้านการเงินที่ปลอดภัย แอพเพื่อการท่องเที่ยวและร้านอาหาร แอพข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนแอพด้านภาพถ่าย เกมส์ และความบันเทิงต่างๆ  ปัจจุบันมีแอพฯบน Windows Phone Store มากกว่า 135,000แอพ และบน Nokia Store อีกกว่า 63,000 แอพ โดยแอพพลิเคชั่นสัญชาติไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุดสามารถทำสถิติมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 375,000 ครั้งในเวลาไม่ถึง 2 เดือน”

 
โนเกียและมหาวิทยาลัยรังสิต ริเริ่มโครงการ My First App เพื่อผลิตนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นรุ่นใหม่รองรับความต้องการด้านการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่จะเพิ่มมากขึ้นทั้งจากภาคธุรกิจและผู้บริโภครวมทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรไทยให้ก้าวไปสู่ตลาดแอพพลิเคชั่นระดับโลกต่อไปในอนาคต
 
โครงการ My First App มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาไทย มีความเข้าใจในเทคโนโลยี ระบบปฏิบัติการ และหลักการในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยี ฝึกอบรม และลงมือปฏิบัติจริงในห้องปฏิบัติการ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากโนเกียมาถ่ายทอดวิทยาการ อาทิ APIs ของแผนที่โนเกีย แอพที่ใช้งานเทคโนโลยี NFC เป็นต้น รวมถึงนักพัฒนาแอพ มืออาชีพที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์จริงในการทำงานและเคล็ดลับในการผลิตแอพคุณภาพเพื่อตอบสนองได้ทั้งผู้ใช้งานในประเทศและทั่วโลก 
 
10 โครงการจากนักศึกษาที่ผ่านการฝึกอบรมและนำเสนอแนวคิดในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น จะได้รับการคัดเลือกเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นและเผยแพร่บน Windows Phone Store เพื่อให้ผู้บริโภคได้ดาวน์โหลดและนำไปใช้งานจริง แอพ จากทีมใดที่มียอดการดาวน์โหลดสูงสุด ผู้พัฒนาจะได้รับโอกาสไปทัศนศึกษาที่ศูนย์พัฒนาและวิจัยของโนเกีย ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์วิจัยสำคัญของโนเกีย
 
“ยิ่งมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ในหลากหลายระดับราคา ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถเลือกสมาร์ทโฟนที่เหมาะสมกับตนเองได้มากขึ้น และจูงใจให้ผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนเครื่องแรกเพื่อทดลองใช้บริการ 3G ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดความต้องการใช้แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้น  จึงเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยที่จะพัฒนาบุคลากรด้านนี้อย่างจริงจัง” นายจิรพัฒน์กล่าว
 
ด้านผศ.ม.ล.กุลธร เกษมสันต์ คณบดี คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงการเตรียมตัวของมหาวิทยาลัยในการผลิตบุคลากรด้านนักพัฒนา เพื่อตอบรับกระแสการเปิดให้บริการ 3G ว่า อุตสาหกรรมด้าน Mobile Application ในประเทศไทยกำลังมีอัตราการขยายตัวอยู่ในปริมาณสูงเพื่อตอบรับการให้บริการ 3G ทำให้เกิดความต้องการบุคลากรด้านนักพัฒนาแอพมากยิ่งขึ้น ทางคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ เห็นถึงความสำคัญในการผลิตบัณฑิตพร้อมใช้ทางด้าน Mobile Application เพื่อตอบสนองการพัฒนาของประเทศ จึงมุ่งพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนของหลักสูตร ลงทุนสร้างห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง และร่วมมือกับบริษัทชั้นนำทางด้านไอที เพื่อให้นักศึกษาได้ใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ในการปฏิบัติจริง  และสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานทั้งภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมให้กับนักศึกษา เพื่อให้เกิดทักษะและประสบการณ์ พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้าน Mobile Application ต่อไป
 
โครงการ My First App จะเปิดรับสมัครนักศึกษาเฉพาะมหาวิทยาลัยรังสิตในเดือนเมษายน และจะเริ่มฝึกอบรมในเดือนพฤษภาคม  แอพที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เผยแพร่บน Windows Phone Store เพื่อให้ดาวน์โหลดในเดือนสิงหาคม และประกาศแอพที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในเดือนกันยายน 2556 
 
โนเกียมีแผนขยายโครงการ My First App ไปยังมหาวิทยาลัยอื่นๆ ภายหลังการประเมินผลโครงการ เพื่อร่วมผลิตนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นของไทยให้มากยิ่งขึ้น โนเกียยังตั้งเป้าผลักดันให้เกิดนักพัฒนาเกมส์บนมือถือ ซึ่งเป็นรูปแบบความบันเทิงที่เป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่และผู้บริโภคทั่วโลก เนื่องจากเข้าถึงง่าย สะดวกและค่าใช้จ่ายไม่สูง ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจไทยในยุค 3G ได้
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง