อสม.บางพื้นที่หางบประมาณจัดซื้อเครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือดใช้เอง
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.บ้านท้องคุ้ง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร กลุ่มนี้ ลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านในเขตที่รับผิดชอบ หลังสอบถามสารทุกข์สุขดิบอย่างเป็นกันเอง เริ่มตรวจสุขภาพให้กับยายวัย 64 ปีคนนี้ ซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวาน แต่การออกเยี่ยมบ้านในครั้งนี้ อสม.จะทำการตรวจวัดระดับน้ำตาล ด้วยเครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือดชนิดพกพา ซึ่งเป็นภารกิจใหม่ของอสม.ที่นี่ นอกเหนือจากการส่งเสริมป้องกันโรคและให้ความรู้เรื่องสุขภาพ อสม.กลุ่มนี้ กล่าวว่า เครื่องชนิดนี้ใช้งานได้สะดวก และช่วยให้การคัดกรอง ติดตามระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานทำได้ง่ายขึ้น
เหตุผลที่ อสม.บ้านท้องคุ้ง ต้องทำหน้าที่ช่วยตรวจคัดกรองและเจาะเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน เป็นเพราะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท้องคุ้งมีเพียง 3 คน ไม่สามารถดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างทั่วถึง การให้บทบาท อสม.เป็นผู้ช่วยก็เพื่อแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งก็ทำได้เป็นอย่างดี โดย รพ.สต.บ้านท้องคุ้ง ได้จัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดชนิดพกพา จำนวน 4 เครื่อง ให้ อสม.ใช้ประจำใน 4 หมู่บ้าน
แม้ขณะนี้กฎหมายวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ปี 2547 จะระบุให้การใช้เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด ที่มีลักษณะของการเจาะเลือดบริเวณปลายนิ้ว ต้องทำโดยวิชาชีพเทคนิคการแพทย์เท่านั้น แต่ความจำเป็นที่ อสม.ต้องช่วยแบ่งเบาภาระของแพทย์ ทำให้มีการเสนอปรับแก้ร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข โดยระบุให้ อสม.ที่ผ่านการฝึกอบรมสามารถ เจาะหลอดเลือดฝอยจากปลายนิ้ว และตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือดได้
นางวรรณิกา มโนรมณ์ นายกสภาเทคนิคการแพทย์เชื่อว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจในการทำงานของ อสม. แต่ที่เป็นห่วงคือโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด แจกให้ อสม.ทั่วประเทศ งบประมาณกว่า 147 ล้านบาท ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ขณะนี้ได้สั่งระงับโครงการฯไว้ชั่วคราว หลังหลายฝ่ายโต้แย้งว่าอาจส่อไปในทางทุจริต ซึ่งสภาเทคนิคการแพทย์ ก็ได้ท้วงติงให้ทบทวนรายละเอียดต่างๆ ให้ชัดเจนก่อนจะจัดซื้อ เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง
ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งให้ระงับโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด เพื่อศึกษาความคุ้มค่าในจัดซื้อ ระหว่างการซื้อเครื่องตรวจและแถบตรวจ จะแพงกว่าการซื้อเพียงแถบตรวจแล้วแถมเครื่องตรวจหรือไม่ ดังนั้น การจะบอกว่าเกิดการทุจริตหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบให้ได้หลักฐานที่ชัดเจนก่อน ซึ่งขณะนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว