"อภิสิทธิ์" ชี้นายกฯกำลังนำประเทศสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่

การเมือง
30 เม.ย. 56
05:00
51
Logo Thai PBS
"อภิสิทธิ์" ชี้นายกฯกำลังนำประเทศสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มองว่านายกรัฐมนตรีกำลังนำประเทศสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่ หลังพรรคเพื่อไทยอาจมีมติในการไม่ส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่วันนี้ (30 เม.ย.) พรรคเพื่อไทย จะขอมติในที่ประชุมพรรค เพื่อเห็นชอบให้ไม่ส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ แสดงออกถึงการโต้แย้งอำนาจศาลในการรับวินิจฉัยคำร้องตามมาตรา 68 กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่ประเทศมองโกเลีย ใจความตอนหนึ่งว่า การรัฐประหารทำให้กระบวนการกฎหมายถูกทำลาย โครงการ และแผนงานที่พี่ชาย ริเริ่มตามที่ประชาชนต้องการถูกยกเลิก ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพของเขาถูกปล้นไป จนต้องลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องเพื่อให้ได้เสรีภาพคืนมา แต่ในเดือนพฤษภาคม 2553 มีการสลายการชุมนุมของผู้เรียกร้องกลุ่มคนเสื้อแดง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 91 ศพ หลังจากได้รับการเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ แต่เรื่องราวนั้นยังไม่จบ ความเจ็บปวดที่ครอบครัวของได้รับ และครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 91 คน ต้องเผชิญจะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายสำหรับประเทศไทย ขอให้เราทุกคนสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยเพื่อที่เสรีภาพและอิสรภาพของมนุษย์

ขณะที่วาระสำคัญในการประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้ (30 เม.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จะมีการหารือถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทย ต่อการโต้แย้งอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ กรณีรับวินิจฉัยคำร้องตามมาตรา 68 เบื้องต้น ยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจหน้าที่ของสมาชิกสภานิติบัญญัติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ซึ่งศาลก้าวล่วงไม่ได้ ดังนั้น สมาชิกพรรคเพื่อไทยทั้งหมดจะไม่ส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน ซึ่งที่ประชุมพรรคจะมีการพูดคุยประเด็นดังกล่าว พร้อมกันนี้ฝ่ายกฎหมายจะนำจดหมายเปิดผนึกที่ยกร่างคำโต้แย้งกรณีดังกล่าวแจกจ่ายแก่ ส.ส.ร่วมพิจารณาเนื้อหา จากนั้นที่ประชุมอาจจะขอฟังมติว่าเสียงส่วนใหญ่ว่าเห็นเป็นอย่างไร

ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ส่วนตัวยังขอสงวนความเห็นที่จะส่งคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะวุฒิสภาไม่มีสังกัดพรรค จะอิงตามมติพรรคเพื่อไทยที่ไม่ให้ ส.ส.ของพรรคส่งคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ วุฒิสภาต้องทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง หากจะส่งคำชี้แจง ก็เพราะจะสู้เพื่อทำให้ศาลเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ไม่เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง แต่หากไม่ส่งก็เพราะเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องตั้งแต่ต้น

ทั้งนี้ ในส่วนของ ส.ว.ที่ได้ลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรากว่า 60 คนนั้น ตนได้ให้ฝ่ายกฎหมายร่างคำชี้แจงไว้ให้ หาก ส.ว.ท่านใดประสงค์จะส่งคำชี้แจง ก็ให้มาลงชื่อได้ หรือจะส่งคำชี้แจงเองก็เป็นสิทธิ

ขณะที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เปิดเผยว่า ตน และนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 พร้อมทำตามมติพรรคเพื่อไทย และเชื่อว่าพรรคยืนยันคำเดิมในการคัดค้านอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลแทรกแซงการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทย อาจมีมติไม่ส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ปฏิเสธกระบวนการศาล เป็นคำถามที่นายกรัฐมนตรีต้องตอบว่า สรุปแล้วในฐานะผู้นำประเทศ ผู้นำฝ่ายบริหาร ประสงค์ที่จะเห็นความขัดแย้งลุกลามบานปลายหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมองว่าไม่ว่าจะมีคำชี้แจงหรือไม่ชี้แจงต่อศาล กระบวนการของศาลก็ต้องเดินต่อไปตามกฎหมาย แล้วหากถึงจุดหนึ่งที่ศาลวินิจฉัยสิ่งใดออกมา แล้วคู่ความไม่ยอมรับ ก็จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา ดังนั้น นายกรัฐมนตรีต้องเปลี่ยนท่าที ต้องมีความชัดเจน

ส่วนกรณีที่มีการชุมนุมที่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างสิทธิตามศาลรัฐธรรมนูญ ต้องพิจารณาว่าไม่ใช่เป็นการไปเคลื่อนไหวลักษณะที่จะข่มขู่ คุกคาม ขัดขวางการทำงาน หรือการปฏิบัติหน้าที่


ข่าวที่เกี่ยวข้อง