วิเคราะห์เหตุ
7 คะแนนเสียงของนายวรวีร์ มะกูดี ที่ได้รับการโหวตครั้งนี้ถือว่าพลิกความคาดหมาย เช่นเดียวกับ ตำแหน่งประธาน AFC ที่ ชีค ซัลมาน บิน อับราฮิม อัล คาลิฟา จากบาห์เรน ได้รับเลือก ชนะแบบถล่มทลาย เอาชนะ นายวรวีร์ และ คู่แข่งตัวเต็งจาก UAE จึงมีการวิเคราะห์ว่าอาจมีขั้วอำนาจใหม่ใน AFC เกิดขึ้น เพราะประธาน AFC คนใหม่ ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากประธานโอลิมปิกแห่งเอเชีย
ก่อนหน้านี้มีการคาดหมายว่าโอกาสที่นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยจะได้รับการเลือกตั้งเป็นประธาน AFC เป็นไปได้สูง เพราะมติจากชาติในอาเซี่ยนทั้ง 12 เสียง สนับสนุนให้นายวรวีร์ลงเลือกตั้งเป็นประธาน AFC นั่นหมายถึงการมี 12 เสียงจาก 46 เสียงอยู่ในมือ หมายถึงโอกาสชนะที่จะมีมากกว่าคู่แข่งที่ไม่ได้รับการเสนอตัวเป็นตัวแทนจากภูมิภาค
แต่พอผลการเลือกตั้งออกมา นายวรวีร์ กลับได้รับคะแนนเสียงเพียงแค่ 7 เสียงนั่นหมายถึง ภาพสะท้อนที่ออกมายย้ำชัดเจนว่าเสียงในภูมิภาคอาเซี่ยนแตกตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้จริง มีบางกลุ่มที่ต่อต้านไม่ยอมรับนายวรวีร์อยู่ลึก ๆ จึงประชุมนอกรอบชักชวนกันไม่ลงคะแนนเลือกนายวรวีร์ เป็นประธานตามมติที่ประชุมก่อนหน้านี้ จึงทำให้คะแนนของนายวรวีร์ น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก
ในด้านความสัมพันธ์ของนายวรวีร์ กับ ชีค ซัลมาน บิน อับราฮิม อัล คาลิฟา จากบาห์เรน ประธาน AFC คนใหม่ที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาแบบพลิกความคาดหมาย คงจะเป็นคนละขั้ว เนื่องจากนายวรวีร์ มีความสัมพันธ์อันดี โมฮะหมัด บิน ฮัมมัม ประธาน AFC คนเก่าที่ถูกลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลตลอดชีวิต
ส่วน ชีค ซัลมาน บิน อับราฮิม อัล คาลิฟา จากบาห์เรน การลงเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ชีค อาหมัด อัลฟาฮัด อัลซาบา ประธานโอลิมปิกของเอเชีย เนื่องจาก ประธาน AFC ชาวบาห์เรน เป็น 1 ในคณะกรรมการโอลิมปิกเอเชีย จึงถือว่าการได้รับเลือกตั้งของ ชีค ซัลมาน บิน อับราฮิม อัล คาลิฟา เป็นขั้วอำนาจใหม่ในวงการฟุตบอลเอเชีย ทั้งยังได้รับคะแนนโหวตจากชาติสมาชิกถึง 33 เสียง ชนะคู่แข่งอย่างขาดลอย