ขอถนน 3จี ปราศจากอบายมุข

10 พ.ค. 56
09:04
73
Logo Thai PBS
ขอถนน 3จี ปราศจากอบายมุข

เครือข่ายครอบครัวรณรงค์หยุดการพนัน ขอถนน3จีปราศจากอบายมุข เสนอ กสทช.เป็นต้นแบบโลกปกป้องเด็กและเยาวชนจากสื่อพนันยุค 3จี ประวิทย์ ระบุจขณะนี้ยังไม่มีแผนคุ้มครองผู้บริโภคของบริษัทใดผ่านการพิจารณาของบอร์ด

 นายอิมรอน  เชษฐวัฒน์  เครือข่ายครอบครัวรณรงค์หยุดการพนัน  กล่าวว่า ขณะที่กระแสสังคมกำลังให้ความสำคัญกับค่าบริการ ๓จี อยู่นี้ ในฐานะตัวแทนของเครือข่ายครอบครัวรณรงค์หยุดการพนัน ขอให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของการป้องกันเด็กและเยาวชนจากข้อมูลที่ไม่เหมาะสมโดยเฉพาะเรื่องการพนัน ผ่านการใช้บริการ3จี  เนื่องจากครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ที่แต่ละบริษัทเพิ่งเริมเปิดให้บริการ จึงควรตั้งเป้าหมายเริ่มต้นเพื่อทำให้ถนนข้อมูลข่าวสารของ เอไอเอส ดีแทคและทรูมูฟ เอช หรือแม้แต่ทีโอที สะอาดและปราศจากการพนัน เพราะแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน เป็นทั้งโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์หรือทำธุรกิจในเรื่องนี้และมีความสามารถที่จะป้องกันได้ รวมถึง กสทช. ผู้กำหนดกติกาจะต้องพิจารณาในเรื่องนี้อย่างจริงจังและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม    

 
“หนทางที่เป็นไปได้คือ แผนการคุ้มครองผู้บริโภค กรณีมาตรการจัดการกับบริการที่ไม่เหมาะสมของผู้ให้บริการ 3จี ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กสทช.นั้น ควรมีข้อกำหนดที่ชัดเจน เช่น มาตรการจัดการกับบริการที่ไม่เหมาะสม ต่อเด็กและเยาวชน หรือ มาตรการจัดการกับบริการที่ไม่เหมาะสม กรณี การพนัน ถ้าทำได้จะเป็นสง่าราศีของประเทศ เป็นการประกาศต่อโลกว่าผู้ใหญ่ประเทศนี้ให้ความสำคัญและปกป้องเด็กและเยาวชน ซึ่งธุรกิจและหน่วยงานกำกับควรดำเนินการให้เห็น เพราะเรากำลังพูดถึงเด็กและเยาวชนที่ยังขาดวุฒิภาวะ ไม่เท่าทัน กลยุทธ์การหลอกล่อในรูปแบบต่างๆ” ตัวแทนเครือข่ายครอบครัวรณรงค์หยุดการพนันกล่าว
 
ด้าน นายประวิทย์  ลี่สถาพรวงศา  กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวถึงปัญหาการพนันออนไลน์กับการให้บริการ ๓จีว่า การให้บริการ๓จีจะทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดข้อความเชิญชวนด้วยข้อความที่เรียกว่า พหุสื่อ มัลติมีเดีย ซึ่งจะทำให้ดูน่าสนใจ และมีการให้บริการคอนเทนส์มากขึ้น ในการให้บริการ 2จีนั้น บริการหลักคือ เสียงและเอสเอ็มเอส  แต่ในการให้บริการ๓จีนั้น บริการเสริมจะกลายเป็นรายได้หลัก ด้วยลักษณะการส่งข้อความที่เป็นพหุสื่อ มีคลิป มีเพลง หรือแม้แต่การเล่นอินเทอร์แอคทีฟ ดังนั้นจึงพบว่า การพนันทั้งธุรกิจและบ่อนทั้งหลายจึงใช้ช่องทางนี้ เช่น การเปิดบ่อนออนไลน์ ซึ่งเมื่อมีบริการ๓จี  หากมีโทรศัพท์มือถือที่สามารถเล่นอินเทอร์แอคทีฟได้ ใส่ซิม3จีต่อเน็ต ก็สามารถเล่นบ่อนออนไลน์ที่อาจอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านหรืออยู่คนละทวีปก็ได้
 
“คนที่เล่นพนันออนไลน์จะไม่นิยมการรับส่งข้อมูลความเร็วต่ำ เพราะหากเกิดภาพสะดุดเพราะสัญญาณช้า คนเล่นจะไม่แน่ใจว่าถูกโกงหรือไม่ จึงต้องการเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลความเร็วสูง เป็นเหตุให้การให้บริการ 3จีจะเป็นช่องทางของการพนันออนไลน์มากขึ้นและแพร่หลายมากขึ้น เพราะ ๓จีจะเป็นการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของคนทั่วไป รวมถึงเด็กและเยาวชน ขณะที่ในยุคบริการ 2จี จำนวนคนเล่นเน็ตผ่านมือถือยังอยู่ในวงจำกัด แต่ในยุคนี้การเล่นเน็ตผ่านมือถือจะเป็นมาตรฐานทั่วไปของการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่” นายประวิทย์กล่าว
 
นายประวิทย์กล่าวว่า บริการ 3จี จึงทำให้อินเทอร์เน็ตอาจเป็นประตูไปสวรรค์หรือนรก ทางหนึ่งสำหรับผู้ใช้บริการคือ การปรึกษา พูดคุย สิ่งที่พบเห็นหรือสงสัยในโลกออนไลน์กับครอบครัว ผู้ปกครองหรือครูแล้วนำข้อมูลนั้นมาแลกเปลี่ยนหรือเตือนกัน สำหรับหน่วยงานกำกับดูแลนั้น เนื่องจากปัญหานี้เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน สิ่งผิดกฎหมาย และกิจการโทรคมนาคม ดังนั้นจึงต้องมีผู้รับผิดชอบหลายฝ่าย คือ กระทรวงไอซีที กรมการปกครอง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกสทช. สำหรับกสทช.กำกับดูแลผู้ให้บริการ  ดังนั้นทุกหน่วยงานจึงต้องร่วมมือกัน
 
 “การเล่นพนันออนไลน์มีการหักเงินและวิธีการหักเงิน หรือรับชำระเงิน หากเป็นการหักผ่านค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ถือว่า ผู้ให้บริการหักเงินที่ผิดกฎหมาย หรือแม้แต่หักผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเงินสด หากเป็นของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กสทช.ก็ต้องเข้าไปดูแล สุดท้ายคือ ผู้ให้บริการข้อมูล (CP) ซึ่งเป็นคู่สัญญาของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีส่วนร่วมในการโฆษณาพนันหรือไม่ เช่น การส่งข้อความแจ้งเว็บไซต์การพนัน และตามกฎหมายไทยแม้แต่การโฆษณาก็ถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้นทั้งสามค่ายผู้ให้บริการต้องตรวจสอบพันธมิตรทางธุรกิจว่า มีส่วนในการส่งเสริมสนับสนุนการเล่นการพนันหรือไม่ รวมถึงระงับบริการของผู้ให้บริการที่ไม่ชอบเหล่านี้ไป “กสทช.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคกล่าว
 
นายประวิทย์กล่าวต่อไปว่า ในช่วงนี้แต่ละบริษัทอยู่ระหว่างการเสนอแผนการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งผู้ให้บริการ3จีทั้ง  3รายจะต้องส่งแผนให้ กสทช.พิจารณาและยังไม่มีบริษัทใดผ่านการพิจารณาจากบอร์ดเนื่องจากสำนักงาน กสทช. ยังไม่ได้นำแผนการคุ้มครองผู้บริโภคฉบับเต็มของบริษัทให้บอร์ดพิจารณา ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่มีของบริษัทใดผ่านการพิจารณาเรื่องแผนการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งหากเป็นเช่นนี้แต่ละบริษัทควรเสนอแนวทางที่เป็นรูปธรรมและตรงต่อปัญหากรณีการจัดการกับบริการที่ไม่เหมาะสม ซึ่งรวมถึง เอสเอ็มเอสชิงโชค จนไปถึงเรื่องพนันออนไลน์ทั้งหลายได้
 
 ด้านนายพงศ์ธร  จันทรัศมี ผู้จัดการโครงการขับเคลื่อนสังคมและนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาการพนัน กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาการพนันผ่านอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมนั้นเกี่ยวข้องกับหน่วยงานหลายแห่งดังนั้นเพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาในระยะยาวจึงควรมีการตั้งคณะทำงานหรือคณะกรรมการร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาร่วมทั้งกำหนดแนวทางที่แต่ละหน่วยงานควรต้องดำเนินการ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง