เอกสารหลักฐานการจองรถยนต์ ที่ดนัยนำมายืนยันความบริสุทธิ์ ชี้ให้เห็นว่า เขาจองรถยนต์ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 และรับรถยนต์ในวันที่ 25 เมษายน ปีเดียวกัน ต่อมา กรมสรรพสามิต แจ้งว่า การใช้สิทธิ์คืนภาษีของเขาผิดเงื่อนไข เนื่องจากพบว่า มีการครอบครองรถยนต์ไปก่อนหน้านี้แล้ว
นายดนัยยังตรวจสอบไปยังกรมการขนส่งทางบก กลับพบว่า มีชื่อของเขา ร่วมทำธุรกรรมการโอนย้ายรถยนต์จากกลุ่มบุคคลที่เขาไม่รู้จัก และมีชื่อขอเปลี่ยนเลขทะเบียนรถยนต์ถึง 3 ครั้ง ทำให้เขาเป็นกังวลว่า จะไม่ได้เงินภาษีรถยนต์คืน และกังวลว่า จะถูกกลุ่มนำเอกสารของเขาไปก่ออาชญากรรม
เมื่อตรวจสอบข้อมูลกับ กรมสรรพสามิต ได้รับคำชี้แจงว่า กรณีที่มีผู้เสียหาย ระบุว่า ไม่เคยครอบครองรถยนต์มาก่อน แต่ตรวจสอบพบว่า มีชื่อเป็นผู้ครอบครองและจดทะเบียนรถยนต์ กับกรมการขนส่งทางบก โดยที่ไม่เคยรับรู้นั้น ผู้เสียหายจะต้องพิสูจน์กับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะต้องให้กรมการขนส่งทางบก ออกเอกสารรับรองสิทธิ์ว่า เป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันแรกตามหลักเกณฑ์จริง
สำหรับหลักเกณฑ์ผู้ใช้สิทธิ์ยื่นขอคืนภาษีรถยนต์คันแรก ต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยจดทะเบียนครอบครอง รถยนต์ กับกรมการขนส่งทางบกมาก่อน ซึ่งผู้ใช้สิทธิ์ ต้องยื่นเอกสารที่ประกอบด้วยแบบคำร้องขอคืนภาษี, สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน,สำเนาสัญญาเช่าซื้อ คู่มือการจดทะเบียน หลักฐานการซื้อขายรถยนต์ และหนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี โดยกรมสรรพสามิต จะตรวจสอบความถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบก ก่อนจะพิจารณา ในการให้สิทธิ์และส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลาง โอนเงินให้ หลังครอบครองรถยนต์แล้ว 1 ปี