ผู้เสียหายแจ้งความถูกสวมสิทธิ์บัตรปชช.ซื้อรถ

12 พ.ค. 56
14:40
372
Logo Thai PBS
ผู้เสียหายแจ้งความถูกสวมสิทธิ์บัตรปชช.ซื้อรถ

ผู้เสียหายจากกรณีถูกสวมสิทธิ์บัตรประชาชน แล้วนำไปซื้อรถยนต์จากบุคคลที่ไม่รู้จักเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อขอให้ดำเนินคดีบุคคลดังกล่าวในข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการ ซึ่งก่อนหน้านี้เข้าตรวจสอบกับกรมการขนส่งทางบก พบว่า มีชื่อจดทะเบียนรถยนต์ซ้ำซ้อน ทำให้ผู้เสียหายอาจเสียสิทธิ์ขอคืนภาษีรถคันแรกจากกรมสรรพสามิตได้

ลายมือชื่อที่ถูกลงไว้ในช่องของผู้รับโอนรถยนต์จากชายคนหนึ่งและหนังสือมอบอำนาจ เป็นหลักฐานสำคัญที่ผู้เสียหายจะใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับบุคคล ที่ปลอมแปลงลายมือชื่อของเขาเพื่อนำไปใช้ในการซื้อขายรถยนต์ โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้ทราบเรื่องและไม่ได้รู้จักกับบุคคลที่ทำการซื้อขาย หรือบุคคลที่เขาได้ทำการมอบอำนาจ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ผู้เสียหายไม่ได้รับสิทธิ์จากการคืนภาษีรถคันแรก เนื่องจากกรมสรรพสามิตพบว่าชื่อผู้เสียหายเป็นเจ้าของรถยนต์คันหนึ่งมาแล้ว

ผู้เสียหายระบุว่าเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เขาได้ทำการจองรถยนต์ตามโครงการรถยนต์คันแรกกับโชว์รูมแห่งหนึ่ง และได้รับรถยนต์เมื่อวันที่ 25 เมษายนของปีเดียวกัน พร้อมกันนี้เขาได้ยื่นคำร้องขอคืนภาษี แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิตได้ติดต่อกลับมาพร้อมระบุว่า ผู้เสียหายอาจจะเสียสิทธิ์การขอคืนภาษีดังกล่าว เนื่องจากพบว่า มีชื่อเป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์คันหนึ่ง

เมื่อผู้เสียหายจึงขอตรวจสอบเอกสารกับกรมการขนส่งทางบก ที่ถูกระบุว่า เขาได้มีการมอบอำนาจให้หญิงคนหนึ่งไปทำการรับโอนรถยนต์แทน เมื่อวันที่ 1 มีนาคมปีที่แล้ว และเมื่อเขาตรวจสอบเอกสารพบว่า ลายมือชื่อที่ถูกเซ็นต์ในเอกสารทั้งหมดเป็นการปลอมแปลง จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจนครบาลบางซื่อ เพื่อขอให้สืบสวนดำเนินคดีกับบุคคลที่มีชื่อในเอกสาร ซึ่งขณะนี้สิ่งที่เขาเป็นกังวลคือ การที่มีชื่อของเขาครอบครองรถยนต์ ที่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับเขาได้

สำหรับหลักฐานการรับโอนรถยนต์ ที่มีการปลอมแปลงลายเซ็นต์ของผู้เสียหาย ทีมข่าวไทยพีบีเอส พบว่า เป็นรถยนต์ยี่ห้อ โดยเริ่มแรก เป็นทะเบียนรถยนต์ที่อยู่ในหมวดอักษร 7 ง ต่อมามีการขอเปลี่ยนทะเบียนอีกสองครั้งมาเป็นหมวด ขร. และ ฆฆ เป็นทะเบียนสุดท้าย และต่อมามีการอ้างว่าโอนรถยนต์ให้กับผู้เสียหาย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่อาจทราบได้ว่า บุคคลใดเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ตัวจริง และหากมีการตรวจสอบตามขั้นตอน ก็จะปรากฎชื่อของนายดนัย เป็นผู้ชื่อผู้ครอบครองเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถติดตามตัวบุคคล ที่เจ้าของรถผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ตัวจริงนั้นได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง