ความเห็นขัดแย้งในการใช้ธรรมนูญฟีฟ่า

หลายฝ่ายจับตามองการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลที่นำธรรมนูญฟีฟ่ามาใช้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล

นายวีระพงษ์ บางท่าไม้ ผู้อำนวยการกองนิติการ สำนักผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ตัวแทนของ กกท.ที่ร่วมประชุมกับสมาคมฟุตบอล และฟีฟ่า เพื่อหารือการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลในการนำธรรมนูญฟีฟ่ามาใช้ ชี้แจงว่าสามารถปรับบางส่วนของธรรมนูญเพื่อไม่ให้ขัดต่อ พ.ร.บ.กีฬา 2528 โดยเฉพาะวาระนายกสมาคมในการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ซึ่งธรรมนูญข้อนี้จำเป็นต้องปรับให้ใช้เหมือนเดิมคือวาระ 2 ปีไปก่อนเพื่อไม่ขัดต่อ พรบ.กีฬา 2528 เมื่อมีการยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.กีฬา เสร็จสิ้นจึงค่อยเปลี่ยนวาระเป็น 4 ปีตามธรรมนูญฟีฟ่า

ส่วนนางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมการกฎหมายสิทธิประโยชน์ด้านกีฬา วุฒิสภา มีความเห็นที่แตกต่างชัดเจนว่าหากทำตามธรรมนูญฟีฟ่าการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลจะขัดต่อ พ.ร.บ.กีฬา 2528 อย่างแน่นอน โดยเฉพาะประเด็นที่ให้กำหนดคุณสมบัติสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้เหลือเพียง 72 เสียงเท่านั้น

โดยนางนฤมลให้ความเห็นอย่างชัดเจนว่า หากสมาคมฟุตบอลยังยืนยันจะใช้ธรรมนูญฟีฟ่าเลือกตั้ง กกท.มีสิทธิ์ที่จะเพิกถอนสิทธิ์ของสมาคมฟุตบอล หรือการถอดคำว่าแห่งประเทศไทยออก เหมือนกับที่เคยใช้มาแล้วกับสมาคมมวยสากลสมัย พล.อ.ทวีป จันทโรจน์ ซึ่งมีปัญหาในการเลือกตั้ง และสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยที่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติของสโมสรสมาชิก