กฟฝ.ชี้
เหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่พร้อมกันใน 14 จังหวัดภาคใต้เมื่อวานนี้ (21พ.ค.56) ได้รับการแก้ไขแล้ว โดยสาเหตุไฟฟ้าดับ ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ระบุว่า มาจากสายส่งหลักที่ส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไปยังภาคใต้เกิดการขัดข้อง
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2556 เวลาประมาณ 18.52 น. กระแสไฟฟ้าใน 14 จังหวัดภาคใต้ ได้ดับทุกพื้นที่พร้อมกัน ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลงไป โดยทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปแก้ไข ซึ่งในเวลาประมาณ 19.35 น. หลายพื้นที่ภาคใต้ตอนบน กระแสไฟฟ้ากลับใช้งานได้ตามปกติแล้ว และทางการไฟฟ้าได้เข้าระบบทยอยจ่ายไฟฟ้าได้ทุกพื้นที่ทั้งหมดในเวลาประมาณ 21.00 น.
เหตุไฟฟ้าดับครั้งนี้ ทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะจ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น และวิทยุด่วนถึงเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้เฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากเกรงว่า กลุ่มผู้ไม่หวังดีอาจฉวยโอกาสก่อเหตุความรุนแรง และได้แจ้งประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนก
ด้านนายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ระบุว่า สาเหตุที่ไฟฟ้าดับทั่วทั้งภาคใต้ มาจากสายส่งขนาด 500 กิโลโวลต์ ซึ่งเป็นสายส่งจอมบึง-ประจวบ ในโรงไฟฟ้าบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเป็นสายส่งหลักที่ส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไปยังภาคใต้เกิดการขัดข้อง ซึ่งปกติสายส่งไฟฟ้านี้มีมาตรการรองรับเหตุฉุกเฉิน ด้วยการออกแบบมา 2 เส้น คือ เส้นหลัก และ เส้นสำรองรองรับกรณีฉุกเฉิน แต่ สายไฟฟ้าสายหนึ่งอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม จึงทำให้เหลือ สายส่งไฟฟ้าเพียงเส้นเดียว เมื่อเกิดขัดข้องจึงทำให้เกิดไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนลงไป
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า เหตุไฟฟ้าดับ หลังสายส่งไฟฟ้าเกิดขัดข้อง เนื่องมาจากปัจจุบันโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีอยู่ในภาคใต้มี 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขนอม โรงไฟฟ้าจะนะ โรงไฟฟ้าเขื่อนรัชประภา มีกำลังการผลิตไม่เพียงพอ ต่อความต้องการใช้ไฟในภาคใต้ ซึ่งเหตุไฟดับครั้งนี้ ถือเป็นไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลระบบสายส่งเพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นอีกในอนาคต