รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ.เผยภาคใต้อาจเกิดไฟดับซ้ำ เหตุกำลังการผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอ

 

ทั้งนี้ สายส่งขนาด 500,000 โวลต์ หยุดการจ่ายเพื่อทำงาน ในระหว่าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และอ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้เหลืออยู่วงจรเดียวที่ทำหน้าที่จ่ายไฟ ซึ่งคาดว่า ถูกฟ้าผ่าสายส่งห่างจากจอมบึง 69 กิโลเมตร ทำให้ไม่สามารถจ่ายไฟในระดับ 500,000 โวลต์ได้ จึงต้องใช้วงจรขนาด 230,000 โวลต์แทน แต่ยังไม่เพียงพอกับปริมาณการใช้งาน สายส่งจึงหลุดออกจากระบบการเชื่อมโยงจากภาคกลาง ส่งผลให้โรงไฟฟ้าในภาคใต้ทุกแห่งตัดไฟฟ้าเองอัติโนมัติ และทำให้ไฟฟ้าดับทั้ง 14 จังหวัดดังกล่าว

    

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เกิดเหตุ กฟผ.ได้เร่งซ่อมแซมการจ่ายกระแสไฟฟ้า จนสามารถกลับมาให้ได้อีกครั้ง เมื่อเวลา 21.45 น. ขณะที่เวลา 03.00 น. (22พ.ค.56) ที่ผ่านมาระบบการส่งไฟได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว และสามารถเชื่อมโยงกับกลางได้ตามปกติ

 

รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. ยังกล่าวขอโทษประชาชนภาคใต้ทุกคนที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่ไม่รับประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก เนื่องจาก กำลังการผลิตไฟฟ้าของภาคใต้ขณะนี้น้อยกว่าบริมาณการใช้ของประชาชน ทั้งนี้ กฟผ.มีการวางแผนในระยะสั้น คือ พยายามดูแลระบบให้เชื่อมโยงกับภาคกลางให้ได้ ขณะที่แผนระยะยาวนั้น จะต้องรอให้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พิจารณานโยบายในการรับมือ และป้องกันกับปัญหาดังกล่าว รวมถึงการหาแนวทางในการเพิ่มกำลังการผลิต ขณะเดียวกัน ต้องการประชาชนในพื้นที่จำเป็นต้องร่วมกันพิจารณานโยบายดังกล่าวด้วย 

 

ทั้งนี้ การเชื่อมโยงไฟฟ้าจากพื้นที่ไกล มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก ดังนั้น แหล่งผลิตไฟฟ้าจะงควรอยู่ในพื้นที่ ซึ่งความเป็นไปได้ในการมีแหล่งไฟฟ้าสำรองนั้น เวลา 11.30 น. วันนี้ (22พ.ค.56) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจะแถลงข่าวต่อกรณีดังกล่าว ที่กระทรวงพลังงานด้วยตนเอง