ชาวหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช หวั่นไฟดับปัจจัยเร่งสร้างโรงไฟฟ้า
ประชาชนในเขตเมืองของอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวมถึงหลายพื้นที่ของภาคใต้เข้าจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นโดยเฉพาะเทียนไข จากร้านสะดวกซื้อท่ามกลางความมืดมิด หลังเกิดไฟฟ้าดับทั่วภาคใต้ ซึ่งเป็นความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นกับคนเมืองที่ชีวิตต้องพึ่งพาไฟฟ้า
ในขณะที่เช้าวันใหม่ภาวะความวิตกกังวลกลับไปตกอยู่กับชุมชนประมงพื้นบ้านในอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะเหตุไฟฟ้าดับอาจเป็นแรงผลักให้การเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิต
นายวรพจน์ อินทร์ทอง ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการภาคใต้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กำลังผลิตไฟฟ้า และความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้มีความไม่สมดุลกัน ภาคใต้ยังต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากภาคกลาง และประเทศมาเลเซียอยู่เกือบ 1,000 เมกะวัตต์ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มในภาคใต้
ข้อมูลจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยระบุว่า กำลังผลิตไฟฟ้าในภาคใต้ทั้งกำลังผลิตหลักจากโรงไฟฟ้า 8 แห่ง กำลังผลิตสำรอง และกำลังผลิตเชื่อมโยงจากภาคกลาง และมาเลเซียรวมกัน อยู่ที่ประมาณ 3,400 เมกะวัตต์ ในขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 2,400 เมกะวัตต์ จึงยังมีกำลังผลิตไฟฟ้าส่วนเกินอยู่ถึง 1,000 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่าโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 1 โรง
ในขณะที่ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาลวุฒิสภาเห็นว่าภาครัฐโดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้ยังคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริงพร้อมตั้งข้อสังเกตเรื่องการบริหารจัดการกำลังผลิตไฟฟ้าที่ขาดประสิทธิภาพ
ทั้งประชาชนในพื้นที่เป้าหมายการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่รวมถึงประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาลวุฒิสภาเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนระบบบริหารจัดการกำลังผลิตไฟฟ้าไม่ให้เกิดการรวมศูนย์จนเกินไป เพราะโรงไฟฟ้าหลายแห่งที่กระจายอยู่ในภาคใต้สามารถที่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้ได้เกือบทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นหนทางหนึ่ง ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง