ไฟดับภาคใต้ เป็นเหตุ
เจ้าหน้าที่ปรับปรุงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกว่า 150 คน เร่งประกอบเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า ขนาด 27 เมกะวัตต์ ภายในโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา แทนเครื่องเดิมที่มีกำลังการผลิตแค่ 24 เมกะวัตต์ โดยจะมีทยอยให้ครบทั้ง 3 เครื่อง สามารถเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิม อยู่ที่ 72 เมกะวัตต์ มาเป็น 81 เมกะวัตต์ ในอีก 1-2 ปีนี้
ปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบัน แบ่งเป็นจังหวัดยะลา มากสุดอยู่ที่ 83 เมกะวัตต์ จังหวัดปัตตานีกับจังหวัดนราธิวาส เท่ากันอยู่ที่ 60 เมกะวัตต์ ในอดีตโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลางแห่งนี้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายคลอบคลุมทุกจังหวัด โดยไม่ต้องพึ่งกระแสไฟฟ้าจากโรงที่อื่น ปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่เติบโตแบบก้าวกระโดด และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เร่งเพิ่มศักยภาพโรงไฟฟ้าแต่ละแห่ง
เหตุการณ์ไฟฟ้าดับทั้ง 14 จังหวัด เมื่อ 2 คืน ได้สร้างเดือดร้อน แต่สำหรับพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือได้ว่าแต่ละนาทีหมายถึงชีวิต หัวหน้าแผนกเดินเครื่องกะ 2 โรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง ที่ต้องอยู่เวรในวันเกิดเหตุเล่าว่า ทันทีที่ไฟฟ้าดับ ใช้เวลาตั้งสติเพียง 1 นาที ก่อนเร่งตรวจเช็คจนทราบสาเหตุ จึงตัดสินใจประสานควบคุมไฟฟ้าในจังหวัดตรัง ให้ปลดเม็กเกอร์ไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง เพื่อทำการผลิตไฟฟ้าเอง เพียง 30 นาที ชาวจังหวัดยะลา สามารถมีไฟฟ้าใช้ และถือว่าเร็วกว่าพื้นที่อื่น
หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกลงพื้นที่ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการช่วยกันรักษาความปลอดภัยไม่ให้เกิดเหตุร้ายในช่วงไฟดับ พร้อมย้ำว่าในส่วนการวางแผนป้องกันระยะยาวเป็นเรื่องของการไฟฟ้าไม่เกี่ยวกับหน่วยงานความมั่นคง สอดคล้องกับชาวจังหวัดยะลาที่กล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการออกไปเฝ้าระวังตามจุดเสี่ยงได้ทันท่วงที ทำให้ช่วงเวลาอันแสนเลวร้ายผ่านพ้นไปด้วยดี
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้เตรียมพลังงานสำรองให้กับพี่น้องใน 3 จังหวัด ด้วยการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา กำลังการผลิตขนาดกว่า 700 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 800 เมกะวัตต์