ปชป.เปิดประเด็นทุจริตจำนำข้าว จ.กำแพงเพชร
ไทยพีบีเอส ติดต่อไปยังโรงสีที่ถูกอ้างถึง และได้รับคำชี้แจงว่า ข้าวที่ประมูลเป็นข้าวเมื่อปี 2549-2550 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนโครงการรับจำนำ และเสื่อมคุณภาพ โดยตั้งใจประมูลเพื่อทำเป็นอาหารสัตว์ แต่หลังจากประมูลพบว่าเป็นสต็อกลม ซึ่งโรงสีนำข้าวไปขายก่อน
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดประเด็นทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยชี้ว่ารัฐบาลอาจมีส่วนร่วมในการทุจริต ขายข้าวราคาถูกให้กับกลุ่มนายทุน พร้อมแสดงหลักฐานที่ได้จากองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.
โดยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2554 กระทรวงพาณิชย์จำหน่ายข้าวราคาถูก ให้กับโรงสีโชควรลักษณ์ ที่จังหวัดกำแพงเพชรจำนวน 800 ตัน ในราคาตันละ 5,700 บาท หลังจากนั้นโรงสีแห่งนี้นำข้าวไปขายต่อ ในราคาตันละ 12,000 บาท ซึ่งเท่ากับว่าได้กำไรส่วนต่างตันละ 6,300 บาท
ไทยพีบีเอส ติดต่อไปยังโรงสีโชควรลักษณ์ นายเอนก ฉัตรไชยศิริ เจ้าของยอมรับว่า ซื้อข้าวข้าวขาว 5 % ในสต็อกรัฐบาล กว่า 5,000 ตัน เป็นข้าวปี 49/50 โดยประมูลในราคาตันละ 5,700 บาท หรือ กิโลกรัมละ 5.70 บาท เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนปี 2554 ซึ่งเป็นข้าวด้อยคุณภาพ เพื่อนำไปทำเป็นอาหารสัตว์
โดยข้าวที่ประมูลได้เป็นข้าวจากโรงสีทรัพย์ยืนยงและห้างหุ้นส่วนทรัพย์ยืนยง 2003 ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐ แต่หลังจากประมูล ได้รับมอบข้าวเพียงบางส่วนเท่านั้นเนื่องจากโรงสีดังกล่าวนำข้าวไปขายก่อน โรงสีโชควรลักษณ์จึงขอให้องค์การคลังสินค้าจังหวัดกำแพงเพชรแจ้งความ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดี
นายเอนกยืนยันว่า ส่วนต่างจากการขายข้าวตันละ 6,300 บาท มาจากการที่โรงสีทรัพย์ยืนยง ขอเสนอซื้อข้าวคืนทั้งหมดกว่า 5,000 ตัน โดยเสนอราคาสูงกว่าที่ประมูล ในราคาตันละ 12,000 บาท เพราะไม่ต้องการเป็นคดีความ แต่จริง ๆ แล้วซื้อคืนเพียงแค่ 800 ตันเท่านั้น
นอกจากนี้ไทยพีบีเอส ได้สอบถามไปนายสุธี ชูโชติ หัวหน้าองค์การคลังสินค้า จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลข้าวในโครงการรับจำนำ ยืนยันว่า แจ้งความดำเนินคดีกับห้างหุ้นส่วนทรัพย์ยืนยง 2003 ในกรณีข้าวในโครงการของรัฐหายจริง
นายภาคิน สมมิตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แนวทางระบายข้าวของรัฐบาลใช้ 5 แนวทางเหมือนรัฐบาลที่แล้ว ทั้งเปิดประมูลทั่วไปและการขายแบบรัฐต่อรัฐ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ส่งออก หรือโรงสีก็จะเนินการตามกฎหมาย