ภาคประชาชนหลายกลุ่มค้านประมูลจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.ร่วมกับองค์กรค์ต่อต้านคอร์รัปชั่นได้จัดการเสวนาโครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ขึ้นมา เพื่อเปิดเวทีให้ภาคเอกชน ภาคประชาชน และนักวิชาการ โดยสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยเสนอว่ารัฐบาลไม่ควรด่วนตัดสินใจก่อสร้าง เพราะอาจทำให้ได้โครงสร้างทางวิศวกรรมที่อาจไม่มีคุณภาพ และอาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุน กกร.จึงจะยื่นข้อเสนอจากการเสวนาครั้งนี้ให้รัฐบาลทบทวนโครงการนี้ ในวันที่ 9 มิถุนายน
ต่อมาอีก 2 วัน อดีตประธานคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลทางฝั่งตะวันออก ก็ทำหนังสือเปิดผนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทบทวนโครงการโดยเฉพาะการก่อสร้างทางผันน้ำ ในสัญญา A5 ที่ต้องผันน้ำลงสู่อ่าวไทยไม่น้อยกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพราะอาจทำให้เสียงบประมาณกว่า 150,000 ล้านบาท โดยไม่จำเป็น เช่นเดียวกับภาคีเครือข่ายนครปฐมที่กังวลว่าสัญญา A 5 จะส่งผลกระทบกับประชาชน จึงเสนอร่างมติการบริหารจัดการน้ำของชาวนครปฐมผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
ขณะที่เครือข่ายประชาชนในลุ่มน้ำภาคเหนือ และอีสานก็ออกมาคัดค้านการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลเช่นกัน โดยยื่นหนังสือผ่านสถานทูตเกาหลี ถึงบริษัท K-Water ให้ยกเลิกการประมูลโครงการ ถ้าไม่มีการทบทวนโครงการ ก็จะปิดพื้นที่ไม่ให้เข้าไปก่อสร้าง และอาจฟ้องร้องบริษัทด้วย เช่นเดียวกับเครือข่ายภาคประชาชนอีกหลายกลุ่มที่ยืนยันว่าถ้ารัฐบาลจะเดินหน้าอนุมัติการทำสัญญากับบริษัทเอกชน ก็จะฟ้องร้องรัฐบาลกับศาลปกครอง