สหภาพแรงงานร่วมประท้วงต่อต้านรัฐบาลตุรกี
สหพันธ์การค้าเคสท์ ซึ่งมีสหภาพแรงงาน 11 แห่งเป็นสมาชิกและเป็นตัวแทนของคนทำงานประมาณ 240,000 คน ออกแถลงการณ์กล่าวโทษรัฐบาลว่ากำลังก่อการร้ายต่อประเทศ ด้วยการปราบปรามการประท้วงอย่างสันติของประชาชน ทำให้ชีวิตของพลเมืองไม่ปลอดภัย ดังนั้นสมาชิกของสหภาพแรงงานทั้งหมดจะเข้าร่วมการประท้วงในวันที่ 4 และ 5 มิ.ย.2556 ซึ่งคาดว่าการเข้าร่วมของสหภาพแรงงาน จะส่งผลให้หน่วยงานราชการรวมถึงสถาบันการศึกษา ต้องปิดทำการ
แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศไม่คลี่คลาย แต่นายเรเซ็ป ทายยิป เออร์โดกัน นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเยือนประเทศโมร็อคโคตามกำหนดเดิม ก่อนเดินทางออกนอกประเทศนายเออร์โดกัน เผยว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น และเชื่อว่าเมื่อเดินทางกลับประเทศปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลาย
ส่วนเรื่องที่มีการพูดกันว่าการประท้วงของประชาชนในครั้งนี้เป็นการปฏิวัติประชาชนแบบตุรกี สปริงซึ่งคล้ายกับการปฏิวัติของประชาชนในโลกอาหรับหรืออาหรับ สปริงที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน (2554) นายเออร์โดกันบอกเหมือนเดิมว่าการประท้วงในครั้งนี้เป็นฝีมือของฝ่ายค้านที่ปลุกปั่นประชาชนผู้บริสุทธิ์ให้ออกมาประท้วง คนที่บอกว่าเหตุการณ์นี้ คือตุรกี สปริง แสดงว่าคนที่พูดไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตุรกี
การปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยเกิดขึ้นตามเมืองใหญ่ๆ เช่น ในกรุงอังการ่า,นครอิสตันบูล โดยเช้าวันนี้มีรายงานว่าผู้ประท้วงเริ่มออกมารวมตัวกัน พร้อมให้นายเออร์โดกันลงจากตำแหน่ง เนื่องจากมองว่านายเออร์โดกันกำลังทำตัวเป็นเผด็จการ ทำตัวเป็น"สุลต่านยุคใหม่" และมีแผนจะเปลี่ยนตุรกีให้เป็นรัฐอิสลาม ความรุนแรงจากการประท้วงในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นชายวัย 20 ปีที่ถูกรถชนเสียชีวิต ขณะเข้าร่วมการชุมนุม ขณะที่กระทรวงมหาดไทยรายงานได้จับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงมากกว่า 1,700 คน
นายจอห์น เคอร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความกังวลใจกับข้อมูลที่พบว่าตำรวจตุรกีใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วง โดยสหรัฐฯหวังว่ารัฐบาลตุรกีจะสอบสวนเรื่องนี้และขอให้ตำรวจตุรกีใช้ความอดทนอดกลั้น ซึ่งสหรัฐฯสนับสนุนสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ และขอให้ฝ่ายรัฐบาลและผู้ประท้วงหลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุ