นักเทนนิสหญิงอเมริกันไม่ถนัด"คอร์ทดิน"

การผ่านเข้ารอบชิงเฟร้นช์ โอเพ่น ของ เซรีน่า วิลเลี่ยมส์ ไม่ได้เป็นความสำเร็จส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังถือเป็นความสำเร็จของวงการเทนนิส สหรัฐฯ ด้วย

เกมรอบริงชนะเลิศ ที่ เซรีน่า วิลเลี่ยมส์ ชนะ ซาร่า เออร์รานี่ ไปแบบขาดลอย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ เซรีน่า ในรายการนี้ โดย เซรน่า ห่างเหินจากการได้แชมป์ เฟร้นช์ โอเพ่น ไปนาน ครั้งหลังสุดที่ทำได้ต้องย้อนไปในปี 2002 และเป็นนักเทนนิส อเมริกัน คนสุดท้ายที่ได้แชมป์ แม้ว่าก่อนนั้นในปี 2001 เจนิเฟอร์ คาปริอาตี้ จะเป็นนักเทนนิสอเมริกัน อีกคนที่ได้แชมป์ นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2000 เป็นต้นมา

หรือถ้าจะนับย้อนกลับไปช่วงทศวรรตที่ 80 มีนักเทนนิส อเมริกัน ได้แชมป์แค่ 2 คน ก็คือ คริส เอ็ดเวิร์ด และ มาร์ติน่า นาฟฟาร์ติโลน่า ( เป็นช่วงที่เปลี่ยนสัญชาติจาก เช็คโกสโลวเกีย มาเป็น อเมริกัน ) หรือในช่วงทศวรรตที่ 70 ก็มี แค่ บิลลี่ เจน คิงส์ และ คริส เอ็ดเวิร์ด เท่านั้นที่ได้แชมป์ หรือถ้าย้อนไกลกว่านั้นในทศวรรตที่ 60 ก็มีแค่ แนนซี่ ริชชี่ และ ดาร์เลเน่ ฮาร์ด ที่ได้แชมป์คนละสมัยเท่านั้น

สาเหตุสำคัญที่ทำให้นักเทนนิสหญิงอเมริกันไม่ผูกขาดกับแชมป์รายการนี้ เนื่องจากรูปแบบการเล่นที่ดุดันและปิดเกมเร็วของนักเทนนิสอเมริกัน มักจะใช้ไม่ได้ผลกับการเล่นคอร์ทดิน ที่เน้นความเหนียวแน่น ไม่ผลีพลาม ซึ่งรูปแบบนี้นักเทนนิสจากภาคพื้นยุโรป มีความถนัดมากกว่า อีกทั้ง ในช่วงที่ผ่านมา นักเทนนิสหญิงอเมริกัน ไม่มีจุดขายในเรื่องอาวุธหลัก จนกระทั่ง เซรีน่า มาทำได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้ (56) ไม่ว่าจะเป็น ลูกเสิร์ฟแรก หรือลูกวอลเลย์ครอส คอร์ท อีกประเด็น ก็คือ เวที การแข่งขันคอร์ทดิน ในสหรัฐ มีน้อยมาก โดย การแข่งขันของ เอทีพี ทัวร์ และ ดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ รวมกันมีแค่ 4 รายการ เท่านั้นในช่วงตลอดทั้งปี ขณะที่ ในยุโรปและอเมริกาใต้ มีรายการคอร์ทดินรวมกัน 37 รายการ ตลอดปีทำให้นักเทนนิสหญิงสหรัฐฯที่ถนัดคอร์ทดิน ประสบภาวะขาดช่วง

ถ้าเซรีน่า วิลเลี่ยมส์ สามารถคว้าแชมป์ได้ในวันพรุ่งนี้ (8 มิ.ย.) คงทำให้สหพันธ์เทนนิสสหรัฐฯ พิจารณาเรื่องการพัฒนาการเล่นคอร์ทดินมากขึ้น เพราะอาจจะเป็นไปได้ เมื่อหมดยุคของ เซรีน่า แล้วอาจจะไม่มีนักเทนนิสหญิงอเมริกัน ที่ได้แชมป์รายการนี้อีกเป็น 10 ปี