เจ้าหน้าที่จากกรมสรรพสามิตร กรมการขนส่งทางบก กรมศุลกากร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือสมอ. เข้าประชุมร่วมกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อหารือแนวทางและนโยบายในการป้องกันและปราบปรามรถจดประกอบ
นายธาริต ระบุว่า ขณะนี้พบว่ารถที่จดประกอบที่มีมูลค่าตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป มีทั้งหมด 488 คัน โดยจะเริ่มจากการตรวจสอบเอกสารการครอบครองรถยนต์ ทั้งการเลี่ยงภาษี การจดประกอบรถ การจดทะเบียน การรับรองความมั่นคงแข็งแรง การขอรับรองราคา การตรวจสอบของสมอ. หากพบว่าไม่ถูกต้องจึงจะดำเนินคดี รวมถึงรถที่อายัดไว้ก่อนหน้านี้อีกจำนวน 126 คันด้วย รวมถึงตรวจสอบลักษณะภายนอกของรถว่าตรงกับที่จดประกอบไว้หรือไม่ โดยในวันพุธที่ 12 มิถุนายนนี้ จะเรียกผู้ประกอบการรถยนต์หรู 12 บริษัท เข้าประชุมร่วมเพื่อหารือแนวทางการตรวจสอบ
โดยดีเอสไอจะให้ผู้ครอบครองรถเข้าตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ด้วยความสมัครใจก่อนในวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายนนี้ และหากรถคันใดยังไม่มาให้ตรวจสอบจะมีการออกหมายเรียกให้นำรถมาตรวจสอบ สำหรับข้อมูลรถยนต์จดประกอบ 488 คันนั้น พบมีการจดทะเบียนอยู่ในกรุงเทพมหานครจำนวน 71 คัน ในภูมิภาค 417 คัน ซึ่งดีเอสไอจะประกาศรายชื่อ ผู้ครองครองทั้งหมดเย็นวันนี้ (10 มิ.ย.) ซึ่งมีรายงานว่า มีทั้งนักธุรกิจ ผู้มีชื่อเสียง รวมไปถึงพระสงฆ์ด้วย
ขณะที่ ขนส่งจังหวัดศรีสะเกษก็เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสภาพรถ และรับจดทะเบียน พร้อมชลอการจดทะเบียนรถยนต์ราคาแพง นำเข้าจากต่างประเทศ หลังมีการซัดทอดว่ารถหรูที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เตรียมนำมาจัดทะเบียนที่นี่ ด้านผู้ตรวจราชการกรมขนส่งทางบก เตรียมลงพื้นที่สอบวินัยเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ ที่่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุญาตจดทะเบียนรถหรู ซึ่งจะตรวจย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2553-2555