หวั่นรง.น้ำตาลแบกภาระเก็บรักษา สอน.เสนอเพิ่มโควต้า.แค่ 1.65 ล้านกระสอบ

เศรษฐกิจ
11 มิ.ย. 56
14:55
97
Logo Thai PBS
หวั่นรง.น้ำตาลแบกภาระเก็บรักษา สอน.เสนอเพิ่มโควต้า.แค่ 1.65 ล้านกระสอบ

ด้าน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลงัดข้อขอขึ้นแค่ 1 ล้านกระสอบ เชื่อ 25 ล้านกระสอบเพียงพอในประเทศ

 นายสมศักดิ์ สุวัฒิกะ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า วันที่ 13 มิถุนายนนี้ คณะกรรมการน้ำตาลทราย (กน.) ที่มีนางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานจะประชุมเพื่อเพิ่มโควตาก.(สำหรับบริโภคในประเทศ) โดย สอน.จะเสนอให้เพิ่มโควตา ก.อีก 1.65 ล้านกระสอบ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มอีก 2 ล้านตัน แต่เมื่อพิจารณาปริมาณการใช้น้ำตาลจริงและเพื่อไม่กระทบต่อต้นทุนการเก็บรักษาของโรงงานน้ำตาลจึงปรับลดลง ทั้งนี้การเพิ่มโควตาก.จะทำให้มีน้ำตาลบริโภครวมทั้งปี 26.5 ล้านกระสอบ 

 
ด้านนายชลัช ชินธรรมมิตร์ ประธานคณะทำงานด้านตลาดภายในประเทศ บริษัทไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า คณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลจะส่งหนังสือถึง สอน.ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเสนอว่าควรเพิ่มน้ำตาลโควตา ก.ปีนี้ 1 ล้านกระสอบเป็น 26 ล้านกระสอบก่อน เพราะจากสถานการณ์น้ำตาลและนำข้อมูลมาพิจารณาเห็นว่าน้ำตาลโควตา ก.ที่ 25 ล้านกระสอบ เพียงพอกับความต้องการแล้ว เพราะปีนี้ฤดูร้อนมาเร็วทำให้ความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมีสูง แต่เมื่อฤดูฝนความต้องการใช้น้ำตาลจะลดลง ทำให้ความต้องการใช้น้ำตาลช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะต่ำกว่าช่วงครึ่งแรกของปี และขณะนี้เหลือเวลาประมาณ 5 เดือน จะเปิดหีบน้ำตาลฤดูกาลผลิต 2556/2557 เดือนพฤศจิกายน2556 หลังจากนั้นจะมีน้ำตาลของฤดูกาลใหม่เข้าสู่ตลาดจึงเชื่อว่าความกังวลเกี่ยวกับน้ำตาลตึงตัวจะลดลง 
 
"โรงงานน้ำตาลไม่ต้องการให้เพิ่มถึง 27 ล้านกระสอบ เพราะโรงงานน้ำตาลจะมีต้นทุนการเก็บน้ำตาลเพิ่มขึ้น โดยน้ำตาลโควตา ก.ต้องเก็บไว้ในโกดังจนกว่าจะขายหมด ซึ่งในภาวะปัจจุบันเงินบาทแข็งค่ามีผลต่อการส่งออกน้ำตาลและต้นทุนค่าแรงสูงขึ้นจึงเห็นว่าไม่ควรดำเนินการให้ต้นทุนโรงงานน้ำตาลสูงขึ้นมากกว่านี้"นายชลัชกล่าว 
 
นายชลัชกล่าวว่า สอน.รายงานวันที่ 7 มิถุนายน มีน้ำตาลค้างกระดานที่เหลือจากการขึ้นงวดขายแต่ละสัปดาห์อยู่ที่ 895,470 กระสอบ แบ่งเป็นน้ำตาลค้างกระดานฤดูกาลผลิต 2555/2556 รวม 873,010 แสนกระสอบ และฤดูกาลผลิต 2554/2555 รวม 22,450 กระสอบ ซึ่งโรงงานน้ำตาลเห็นว่าน้ำตาลค้างกระดานระดับปัจจุบันยอมรับได้ และเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมาน้ำตาลค้างกระดานเคยลดลงมาเหลือ 400,000-500,000 แสนกระสอบ และเมื่อ 2-3 ปี ที่ผ่านมาน้ำตาลค้างกระดานเคยสูงถึง 2-3 ล้านตัน ทำให้โรงงานน้ำตาลต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษามาก หากผู้ผลิตเครื่องดื่มจัดหาน้ำตาลได้ไม่พอกับความต้องการสามารถประสานมาที่คณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลได้ ที่ผ่านมาผู้ผลิตเครื่องดื่มจะแจ้งไปที่ สอน.หรือกระทรวงพาณิชย์แต่ไม่เคยประสานมาที่โรงงานน้ำตาล 
 
สำหรับสถานการณ์น้ำตาลขายปลีกตึงตัวในบางพื้นที่เป็นปัญหาที่มีมานานเพราะปัจจุบันมีผู้ผลิตน้ำตาลถุง 1 กิโลกรัมเพียง 3-4 ราย ที่ต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งภาครัฐให้ค่าการตลาดน้ำตาลถุงกิโลกรัมละ 75 สตางค์ ถือว่าไม่เพียงพอกับค่าเครื่องจักร ค่าแรงงานและค่าถุงแบ่งบรรจุจากกระสอบ 50 กิโลกรัม(กก.)เป็นถุง 1 กก. ทำให้โรงงานน้ำตาลหลายรายไม่สนใจผลิตน้ำตาลถุง 1 กก. ซึ่งเมื่อ 2554 เคยเสนอกระทรวงพาณิชย์เพิ่มค่าการตลาดเป็นกิโลกรัมละ 1 บาท แต่ไม่มีความคืบหน้าจึงไม่จูงใจให้มีผู้ผลิตน้ำตาลถุงเพิ่ม แต่ถ้ากระทรวงพาณิชย์เพิ่มค่าการตลาดให้อาจมีผู้สนใจผลิตมากขึ้น 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง