แกะรอยเส้นทางฆาตกรรม"เอกยุทธ อัญชันบุตร"

                       

เจ้าของร้านอาหารครัวกระแต เผยว่า นายสันติภาพ เพ็งด้วง นั่งรอนายเอกยุทธภายในร้าน ในภาพมีพฤติกรรมผิดปกติ มีอาการลุกลี้ลุกลน ใช้โทรศัพท์มือถือตลอดเวลา และขอตัวขับรถตู้ออกจากร้านอาหาร แล้วขับรถกลับเข้ามาที่ร้านอีกครั้งอีก 20 นาทีถัดมา

                                  

ต่อมา นายเอกยุทธ ออกจากร้านอาหารครัวกระแต เวลาประมาณ 22.30 น.แต่ในเวลาประมาณ 23.00 น.นายเอกยุทธ ได้โทรศัพท์ติดต่อลูกชายที่เบอร์โทรศัพท์มือถือ แต่ลูกชายปิดโทรศัพท์ทำให้นายเอกยุทธ ตัดสินใจโทรศัพท์หาญาติเพื่อถามหากุญแจบ้านที่ย่านทาวน์อินทาวน์ในเวลา 23.30 น.จุดนี้เป็นสิ่งที่ญาติตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติเพราะเป็นไปไม่ได้ ที่นายเอกยุทธ จะไม่รู้ที่เก็บกุญแจบ้าน หรือ เป็นไปได้ว่า นายเอกยุทธ อาจส่งสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือ

                                 

เวลาประมาณ 24.05 น. กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถตู้ของนายเอกยุทธ เลี้ยวเข้าซอยร้านอาหารบ้านต้นซุง เพื่อเดินทางไปต่อที่บริษัทไทยอินไซด์เดอร์ ทาวน์อินทาวน์ ซอย 3 /2 เป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่ลูกชายตัดสินใจขับรถจักรยานยนต์ วนไปที่บริษัทฯ หลังจากนายเอกยุทธ โทรศัพท์เข้าไปในมือถือแต่ไม่ได้รับ และเมื่อโทรกลับไป โทรศัพท์ของนายเอกยุทธติดต่อไม่ได้ เมื่อไปถึงจึงเห็นรถตู้สีดำไม่ได้ถูกจอดในที่จอดรถประจำ ก็ไม่ได้แปลกใจ เพราะเข้าใจว่านายเอกยุทธ ถึงบ้านแล้ว

                                 

และเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เวลา 09.00 น.นางอรุณี สุนทรพัฒน์ น้องสาวของนายเอกยุทธ บอกว่า นายเอกยุทธ โทรศัพท์ให้นำสมุดเช็คไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมินัดมอบกันที่ประตู8 และเมื่อพนักงานบริษัทนำสมุดเช็คไปส่งกลับไม่พบนายเอกยุทธ

 

แต่พบนายสันติภาพ นายสันติภาพอ้างว่าขอให้พนักงานที่นำสมุดเช็คมาส่งรออยู่ที่ประตู 8 เพราะต้องนำสมุดเช็คไปให้นายเอกยุทธเซ็นต์ด้วยตัวเอง ก่อนนำเช็คกลับมาส่งให้พนักงานคนเดิมนำไปขึ้นที่ธนาคาร แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเนื่องจากเช็คลงปีพ.ศ.ผิด จึงได้โทรศัพท์สอบถามกับนายเอกยุทธ และได้รับการยืนยันว่า เป็นลายเซ็นต์จริงธนาคารจึงนำเงินสด 5,000,000 บาทให้กับพนักงานคนนี้ เพื่อให้นำไปส่งกับนายเอกยุทธ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่เมื่อไปถึงก็ได้ส่งให้กับนายสันติภาพ และยังไม่มีใครพบเห็นนายเอกยุทธเป็นไปได้ว่า นายเอกยุทธ อาจส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออีกครั้ง ผ่านวิธีการลงปี พ.ศ.ผิด และให้มีโอกาสถ่วงเวลาขณะพูดคุยกับพนักงานธนาคาร แต่โอกาสนี้ก็ไม่เป็นผล 

 

12 .00 น.วันที่ 7 มิถุนายน เพื่อนของนายเอกยุทธ พยายามติดต่อเพราะมีนัดตีกอล์ฟด้วยกัน แต่นายเอกยุทธตอบกลับมาว่า วันนี้ไม่สะดวกจากนั้น เวลา 20.00 น. วันเดียวกัน ญาติสามารถโทรศัพท์ติดต่อกับนายเอกยุทธได้ แต่นายเอกยุทธตอบกลับมาเพียงสั้นๆ และพยายามตัดบทการสนทนา ญาติระบุว่าหากเป็นไปตามปกติ นายเอกยุทธ จะไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้ และนี่คือเบาะแสสุดท้าย ที่ยืนยันได้ว่านายเอกยุทธยังมีชีวิตอยู่