ชาวอิหร่านใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดี
อยาโตเลาะห์อาลี คามิเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านเป็นคนแรกของประเทศ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพื่อหาผู้นำคนใหม่แทนนายมาห์มูด อาห์มาดิเนจาดที่ดำรงตำแหน่งครบ 2 สมัย โดยผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เรียกร้องให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้ง 50 ล้านคน ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยเร็ว
ขณะที่ชาวอิหร่านที่เพิ่งมีสิทธิเลือกตั้งหลายคนตื่นเต้นที่ได้ใช้สิทธิเป็นครั้งแรก แต่สำหรับชาวอิหร่านหัวก้าวหน้าถกกันว่าควรจะบอยคอตการเลือกตั้งหรือไม่ เพื่อเป็นการประท้วงเงียบ หลังจากการประท้วงใหญ่เมื่อ 4 ปีก่อน หลังนายาห์มูด อาห์มาดิเนจาด ชนะการเลือกตั้งในสมัยที่ 2 ผู้ประท้วงถูกปราบปรามอย่างรุนแรง ขณะที่บางส่วน มองว่า การเลือกตั้งไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้นจาก ระบบเดิมๆ เพราะมีการโกงเลือกตั้งอยู่ดี
ล่าสุดมีรายงานว่า ทางการตัดสินใจเลื่อนเวลาปิดหีบเลือกตั้งออกไป เนื่องจากมีผู้ใช้สิทธิจำนวนมาก
การเลือกตั้งอิหร่านในครั้งนี้ สภาผู้พิทักษ์อิหร่าน คัดเลือกผู้มีสิทธิชิงชัยทั้งหมด 8 คน แต่ถอนตัวไป 2 คน ซึ่งในจำนวนผู้สมัคร 6 คนที่เหลือ มีผู้สมัครสายกลางเพียง 1 คน ผู้สมัครหัวอนุรักษ์ 4 คน และผู้สมัครอนุรักษ์นิยมจัดอีก 1 คน
ซึ่งขณะนี้นายฮัสซัน โรวานนี่ ผู้สมัครสายกลาง ได้รับเสียงสนับสนุนจากอดีตประธานาธิบดีสายปฏิรูปถึง 2 คน คือนายอัคบาร์ ฮาเชมี รัฟซันจานี และนายโมฮัมหมัด คาตามี แต่นายโรวานนีต้องเจอกับคู่แข่งคนสำคัญ คือนายซาอีด จาลิลี่ ผู้สมัครสายอนุรักษ์ หัวหน้าคณะเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน ที่คาดว่าได้รับการหนุนหลังโดย อยาโตเลาะห์คามีเนอี
และปรากฏว่าหลังลงคะแนนเลือกตั้ง นายโรวานนีพบความผิดปกติบนบัตรเลือกตั้ง เนื่องจากบัตรเลือกตั้งยังมีชื่อของผู้สมัครเลือกตั้งสายปฏิรูป ที่ถอนตัวจากการเลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และทำให้คะแนนเสียเปล่าได้
คาดว่าผลการเลือกตั้งอาจจะไม่ทำให้ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับประเทศเพื่อนบ้านในตะวันออกกลางและชาติตะวันตก เปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน แต่ท่าทีของรัฐบาลอิหร่าน อาจลดความแข็งกร้าวลง
ขณะที่ชาติในตะวันออกกลางต่างกังวลถึงอิทธิพลของอิหร่านที่มีเหนืออิรักเพิ่มขึ้น รวมทั้งการที่อิหร่านให้สนับสนุนนายบาชาร์ อัล อัดซ้าด ประธานาธิบดีแห่งซีเรีย และกลุ่มฮิซบัลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งล้วนสั่นคลอนสันติภาพอันเปราะบางในตะวันออกกลาง