งานวิจัยชี้ ยกเลิกมาตรการ"รถคันแรก" ฉุดราคารถยนต์มือสองร่วง

เศรษฐกิจ
18 มิ.ย. 56
10:38
244
Logo Thai PBS
งานวิจัยชี้ ยกเลิกมาตรการ"รถคันแรก" ฉุดราคารถยนต์มือสองร่วง

สหการประมูลเผยยกเลิกมาตรการรถคันแรกและไฟแนนซ์เร่งระบายรถค้างสต็อก กระทบราคารถยนต์มือสองทั้งเก๋งและกระบะล่วง เผยรถยนต์นั่งขนาด 1300-1500cc ราคาตก 17.4% เฉลี่ยคันละ 2.8-3.1 แสนบาท คาดสถานการณ์ต่าง ๆ ส่งผลต่อราคารถซบเซาต่อเนื่องถึงปลายปี แนะผู้บริโภคเร่งตัดสินใจซื้อรถเก่งและกระบะราคาประหยัด

 นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท สหการประมูล จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มของตลาดประมูลรถยนต์นั่งเดือนมิถุนายน 2556 ว่า ราคาเฉลี่ยของรถยนต์นั่งขนาด 1300-1500 cc และ  1600-2000 cc เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาปรับตัวลดลง  17.4%  และ  8.2%  ตามลำดับ   สาเหตุเนื่องจากกระแสข่าวยกเลิกมาตรการรับรถยนต์จากโครงการรถคันแรกที่อาจจะสูงถึง  200,000–360,000 คัน   รวมทั้งไฟแนนซ์ต่าง ๆ พยายามลดสต็อครถยนต์ที่มีอายุการใช้งานระหว่างปี  1996 – 1999  ส่งผลกดดันให้ราคาประมูลเฉลี่ยรถยนต์นั่งทั้ง  2 ประเภทอยู่ในทิศทางขาลง  

ทั้งนี้ .สหการประมูลคาดว่าภาวะตลาดอาจจะซบเซาจนถึงช่วงปลายปี  เป็นโอกาสดีของผู้บริโภคที่จะตัดสินใจซื้อรถยนต์มือสองผ่านประมูลในช่วงที่ระดับราคาอ่อนตัว โดยราคาประมูลซื้อรถยนต์  1300-1500 cc ที่จดทะเบียนระหว่างปี 2006-2008  ที่ระดับราคาอยู่ที่คันละประมาณ  286,700 – 315,600 บาท ส่วนรถยนต์  1600-2000 cc ที่จดทะเบียนระหว่าง ปี 2006-2008 ที่ระดับราคาขายคันละประมาณ 400,000 – 417,300 บาท 

 
สำหรับแนวโน้มของตลาดประมูลรถยนต์มือสองประเภทกระบะในเดือนมิถุนายน 2556 นั้น เมื่อเปรียบเทียบกับพฤษภาคมพบว่าราคาของสหการประมูลอยู่ที่คันละ  308,430 บาท ซึ่งปรับตัวลดลง  5.3 % โดยราคาประมูลเฉลี่ยรถกระบะ  Single Cab  เดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลง  7.4%  ขณะที่ราคาประมูลเฉลี่ยกระบะ  Club Cab  และ  Double Cab  เดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลง  4.4 %  เมื่อเทียบกับเดือนก่อน   
 
“ธนาคารแห่งประเทศไทย ประมาณการณ์ดัชนีราคาสินค้าเกษตรว่ามีแนวโน้มลดลง  ซึ่งจะส่งผลต่อกำลังซื้อของเกษตรกรซึ่งเป็นลูกค้าหลักที่ใช้รถกระบะ  ประกอบกับเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนซึ่งเป็นช่วง  Low season  ของตลาดรถยนต์และเป็นช่วงที่เกษตรกรต้องจัดสรรเงินไว้สำหรับเตรียมการเพาะปลูก  จากปัจจัยดังกล่าวสหการประมูลประเมินว่าระดับราคาประมูลรถกระบะน่าจะเริ่มชะลอตัวลง หลังจากราคาประมูลได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแรงในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจากนโยบายจำนำราคาข้าว  ดังนั้น จึงเป็นช่วงที่น่าจะประมูลซื้อรถยนต์ประเภทกระบะ เนื่องจากอยู่ในช่วงที่ระดับราคาอ่อนตัวลง กล่าวคือรถกระบะ Single Cab ระหว่างปี 2006 – 2008 ระดับราคาปรับลดลงมาที่คันละ  260,000 บาท ในขณะที่รถยนต์กระบะประเภท  Club Cab ปี 2006 – 2008  ที่ราคาอยู่ที่คันละ 385,000 บาท และรถกระบะประเภท Double Cab ปี 2006 – 2008 ระดับราคาอยู่ที่คันละ  400,000 บาท” นายเอกพิทยากล่าว 
 
กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท สหการประมูล กล่าวถึงแนวโน้มตลาดประมูลจักรยานยนต์ว่า ในเดือนมิถุนายน 2556 ตลาดประมูลจักรยานยนต์ได้เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา  โดยราคาประมูลเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.8 %  สาเหตุเนื่องจากราคารถมือสองตกลงมาค่อนข้างมาก  ทำให้ลูกค้าสามารถประมูลซื้อจักรยานยนต์สภาพดีได้ในราคาถูก  ประกอบกับในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนตลาดดังกล่าวได้รับผลบวกจากปัจจัยทางด้านฤดูกาล  กล่าวคือเป็นช่วงเปิดเทอมของนักเรียนและนักศึกษา  ดังนั้น บมจ.สหการประมูลประเมินตลาดประมูลจักรยานยนต์ในช่วงเดือนนี้ว่ายังอยู่ในภาวะคึกคัก  อย่างไรก็ตาม บมจ.สหการประมูลแนะนำให้ประมูลซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมา  เนื่องจากระดับราคาประมูลปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรง แต่ถ้าต้องการซื้อจักรยานยนต์มือสองในช่วงนี้แนะนำประมูลซื้อรถประเภท  Moped  ซึ่งที่ระดับราคาอยู่ที่คันละ  20,700 – 22,000 บาท และรถประเภทออโตเมติก  ที่ระดับราคาคันละ  18,900 – 20,200 บาท
 
 
 
 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง