แนวทางปฏิรูปประเทศระยะยาว
เวทีประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนขบวนปฏิรูป ที่จัดโดยสำนักงานปฏิรูป หรือ สปร. เป็นการประชุมครั้งสุดท้าย ก่อนหมดวาระตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิรูป ในวันที่ 2 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ โดยกรรมการสมัชชาปฏิรูปและเครือข่ายสมัชชาได้ร่วมกันนำเสนอแผนกลไกการปฏิรูประยะยาว เพื่อการทำงานต่อเนื่อง ของเครือข่ายทั้ง 21 คณะ รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนต่อผ่านภาคส่วนต่างๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาอุตสาหกรรม สถาบันพระปกเกล้า สภาพัฒนาการเมือง และสำนักงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ
นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตประธานกรรมการปฏิรูป ได้กล่าวถึงข้อเสนอของกรรมการ ชุดที่ได้ยุติบทบาทไปก่อนหน้านี้ว่า แนวทางการปฏิรูปประเทศไทยที่จัดทำเป็นข้อเสนอต่อพรรคการเมือง และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่มีรัฐบาลชุดไหนนำข้อเสนอดังกล่าว ไปผลักดันเป็นนโยบายเท่าที่ควร รวมถึงบทบาทอย่างเป็นทางการของผู้บริหารมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายที่สถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศกลับไม่ให้ความสนใจ
ด้าน ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวถึงทิศทางการปฏิรูปประเทศต่อจากนี้ว่า จะต้องดำเนินการต่อ โดยที่ไม่ได้มีเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นเจ้าของ เพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ภาคประชาชนและองค์กรต่างๆ ได้ขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน กรรมการปฏิรูปมีหน้าที่เพียงสนับสนุน และช่วยสะท้อนภาพปัญหาสังคมให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของความพยายามสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย
3 ปีที่ผ่านมา มติที่เกิดขึ้นจากการจัดเวทีสมัชชาปฏิรูประดับชาติ มีทั้งสิ้น 21 มติ เช่น การจัดสรรทรัพยากรที่ดิน การปฏิรูประบบประกันสังคม การปฏิรูประบบเกษตรกรรม การปฏิรูปการศึกษา และข้อเสนอเพื่อการจัดการตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีการดำเนินการต่อตามข้อเสนอจากองค์กร และเครือข่ายต่างๆ ที่เข้าร่วมสมัชชาปฏิรูปประเทศ