จนท.พบโรงสีบางแห่งเปลี่ยนชื่อ หลังถูกดำเนินคดี ก่อนเข้าโครงการ
พฤติกรรมการฉ้อโกงข้าวในบางจังหวัด โดยเฉพาะจ.พิจิตร มีการแจ้งความดำเนินคดีกับโรงสี และท่าข้าวมาแล้ว กว่า 20 คดี ล่าสุดพบว่า โรงสีบางแห่งที่ถูกดำเนินคดีมาก่อนหน้านี้เปลี่ยนชื่อเข้าร่วมโครงการใหม่ ขณะที่บางจังหวัด เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บข้าวในโครงการรับจำนำของรัฐบาลเพื่อป้องกันทุจริต
เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า และการค้าภายในจ.อุดรธานี ตรวจสอบปริมาณข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐบาล ที่เก็บไว้ในโรงสี 2 แห่ง ในต.นาข่า และต.บ้านจั่น อ.เมือง เบื้องต้นพบว่า ข้าวที่ชาวนานำไปเข้าร่วมโครงการอยู่ครบตามจำนวน และไม่พบความผิดปกติ
ขณะที่ตำรวจภูธรภาค 3 เตรียมตรวจสอบปริมาณข้าวในโกดังกลางและโรงสีทั้ง 12 แห่งของจ.บุรีรัมย์ เพื่อป้องกันการทุจริตและข้าวหาย จ.บุรีรัมย์มีชาวนานำข้าวเข้าร่วมโครงการ ทั้งข้าวนาปรังและข้าวนาปี กว่า 5,000 ตัน
ส่วนการดำเนินคดีกับเจ้าของโกดังเก็บข้าวของโรงสีนพภร อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ที่มีการตรวจพบว่า ข้าวหายไปจากโกดังกว่า 600 ตัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้าจังหวัด ได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของโรงสีแล้ว
ส่วนที่จ.พิจิตร โรงสีข้าวแอลโกลด์เมนูแฟคเจอร์ หรือ โรงสีก้องเกียรติการเกษตร ที่ถูกชาวนาแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงข้าวในปี 2548 และ 2550 เป็นโรงสีที่เคยมีการแจ้งความดำเนินคดี ต่อมาถูกตรวจสอบพบว่า ได้เปลี่ยนชื่อโรงสี เพื่อเข้าร่วมโครงการ
ขณะที่การค้าภายในอ้างว่า การกลับเข้ามาในโครงการใหม่ได้ เพราะยื่นเรื่องและได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการข้าวกลางโดยตรง ไม่ผ่านจังหวัด และชมรมโรงสีข้าวจังหวัดพิจิตร ไม่ได้ให้การรับรองเหมือนรายอื่น
ตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบันจ.พิจิตร มีการโกงข้าวแล้ว 22 คดี มีโรงสีข้าวถูกแจ้งความและถูกขึ้นบัญชีดำจากคณะกรรมการข้าว 7 แห่ง และล่าสุด คือ โรงสีข้าวแอลโกลค์แมนูแฟคเจอร์ ส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างการฟ้องร้องชั้นศาล และไม่ได้อยู่ในโครงการรับจำนำข้าว ปี 2555/2556